Monday, August 17, 2009

มูลนิธิ ที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย

มูลนิธิที่อยู่ อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย เป็นเครือข่ายองค์การที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากล ดำเนินงานใน 100 กว่าประเทศทั่วโลก สร้างบ้านมาแล้วมากกว่า 220,000 หลังและช่วยเหลือผู้ขัดสนด้านที่อยู่อาศัยมากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก


มูลนิธิที่ อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2541 มีหลักการทำงานที่เป็นสาธารณกุศลไม่แสวงผลกำไร โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งพัฒนา และร่วมแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในชุมชน โดยขจัดบ้านชำรุดทรุดโทรมและการไร้ที่อยู่อาศัยให้หมดไปจากสังคมไทย ด้วยการสร้างบ้านที่เรียบง่าย น่าอยู่และเหมาะสมกับอัตภาพของเจ้าของบ้าน
ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้สร้างบ้านมาแล้วทั่วประเทศไทย จำนวนกว่า 5,000 หลัง และช่วยเหลือคนไทยด้วยกันมากกว่า 25,000 คน โดยดำเนินงานอยู่ในพื้นที่ 22 จังหวัด อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ แพร่ นครราชสีมา อุดรธานี มหาสารคาม ขอนแก่น พังงา ภูเก็ต ระนอง กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ระยอง ชลบุรี และ กรุงเทพฯ โดยในปี พ.ศ. 2552 – 2554 ทางมูลนิธิฯ ยังมีแผนงานขยายความช่วยเหลือไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ด้วยการสร้างบ้านรวมจำนวนทั้งสิ้นอีก 5,000 หลัง อีกด้วย
ยังมีคนรอการช่วยเหลือ...


“ที่อยู่อาศัยที่มั่น
คง” เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ทุกคน
เป็นที่น่าตกใจ ที่ประเทศไทยเรา มีจำนวนประชากรที่ประสบปัญหา
ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อทดแทนที่อยู่เดิมที่ไม่มั่นคง
จำนวนกว่า 350,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ



ตังอย่างบ้านอิฐดินประสาน
ด้วยเหตุนี้เราจึงตระหนักถึง การขจัดบ้านที่ไม่น่าอยู่และ
สภาพการไร้ที่อยู่อาศัยให้หมดไปจากชุมชน
ด้วยการสร้างบ้านที่เหมาะสมกับอัตภาพของเจ้าของบ้าน
เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในสังคมไทย
ให้ลดน้อยลงและหมดไปในที่สุด

มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย
เป็นองค์การสาธารณกุศลลำดับที่ 622 ของประกาศกระทรวงการคลัง
เงินบริจาคสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้

Online Donation บริจาคออนไลน์


------------------------------------------------------------------------------------

Kenko พลูคาว คาวตอง ช่วยเรื่องเบาหวาน มะเร็ง 750 มิลิลิตร




สรรพคุณ
- รักษาโรคมะเร็ง ทำลายเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะเกี่ยวกับมะเร็งปอด มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- เนื้องอกในสมอง
- ริดสีดวงทวาร โดยไม่ต้องผ่าตัด
- โรคกาม หนองใน โรคเป็นแผลเปื่อยพุพอง ทำให้น้ำเหลืองแห้ง
- โรคผิวหนัง แก้พิษแมลงป่อง พอกฝี
- ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
- เพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์เม็ดเลือดขาว รักษาอาการอักเสบต่าง ๆ เช่น ฝีอักเสบ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ตาอักเสบ ตับอักเสบ ไตอักเสบ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อรา หูชั้นกลางอักเสบ
- บำบัดฟื้นฟู โรคความดันโลหิตสูง (Artrosclerosis)
- เพิ่มภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานโรค ยับยั้งเนื้องอก กระตุ้นเซลล์น้ำเหลือง ยับยั้งเบาหวาน
- รักษาความสมดุลของร่างกายและอื่นๆ
- ป้องกันไข้ทรพิษ หัด หัดเยอรมัน การติดเชื้อทางเดินหายใจ HIV เริม งูสวัด
- ฤทธิ์เกี่ยวกับการต้านเชื้อราและแบคทีเรีย เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อรา Cryptocoecus
- โรคทางเดินอาหาร
- โรคปริทันต์ โรคติดเชื้อในปาก
-โรคกลากเกลื้อน
- ฤทธิ์ระงับปวด เร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ ห้ามเลือด รักษาปริมาณของเหลวในร่างกาย
- ฤทธิ์ขับปัสสาวะ พบสารฟลาโวนอยด์ ที่แยกได้จากใบพลูคาวเป็นสารสำคัญในการออกฤทธิ์
- ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ น้ำมันหอมระเหยจากการกลั่นส่วนเหนือดินของพลูคาว พบว่ามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอย่างแรงต่อเชื้อ Bacillus cereus และ B. Subtilis เชื้ออหิวาต์ Vibrio cholerae 0-1 และ V. Parahaemolyticus
- ฤทธิ์ต้านไวรัส น้ำมันหอมระเหยจากพลูคาวสามารถยับยั้งการเจริญของไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดใหญ่ และไวรัสที่เป็น
สาเหตุของโรคเอดส์ (HIV)
ปริมาณ 750ml

เลขที่ อย./เลขที่จดแจ้ง : 50-2-05159-2-0007 

Tuesday, August 11, 2009

ปรัชญาชีวิตจากน้าแน๊ก

ทำบุญ ทำกุศล ทำความดี ทำดีต่อกัน รักกันซะ
อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ - ข้อคิดดี ๆ จากน้าเน๊ก เกตุเสพย์สวัสดิ์

1. คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
อุแม่เจ้า......... แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง
คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก...
เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข
*
ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
*
เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
*
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู
ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม
สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน
น้อยเกินไปจริง ๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!
อุแม่เจ้าเทค 2
คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!!
คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้าง ๆ
เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้
นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่
เราไม่ค่อยได้มองมัน เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน
และผ่านคืนวันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น ......
คำนวณเองบ้างซิว้อยย.....
เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา
( ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะทำยังไงกับมันดี .....
แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อนั่งเอา หัวตากแอร์ไป
วัน ๆ ยอม ให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่
' เงินเดือน 'บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ
ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน
เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความ
รู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด
ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล
เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี
อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ ลองคิดแบบนี้บ้าง
ใช่แล้ว .... เราจะเกิดความเสียดาย
เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ
ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย แต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ...
มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว
ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก ตามความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ... เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ ) ตายแล้ว
ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มี
สีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์กับยมบาล
....... คนข้างบ้านเดินแป้น
แล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน
ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด
ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้้น
แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน.........
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......
แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน
ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก
ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ
อ้าว.... รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก
รีบ แยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน .... เสียดายแย่
โดย น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา
-------------------------------------------------------------------------------
ของขวัญวันแม่ที่แม่ต้องชอบเพราะเป็นกล่องเพลงแบบ Vintage บรรจุเพลงสุนทราภรณ์ถึงกว่า 2000 เพลง...อ่านต่อ!!!


Water Supply แหล่งกำเนิด

หลงลืม อธิบายด้วยภาพ

-----------------------------------------------------------------------------------------
ของขวัญวันแม่ที่แม่ต้องชอบเพราะเป็นกล่องเพลงแบบ Vintage บรรจุเพลงสุนทราภรณ์ถึงกว่า 2000 เพลง...อ่านต่อ!!!


-------------------------------------------------------------------------------------------------





















Sunday, August 09, 2009

พระอรหันต์ที่ท่านหลงลืม วันแม่ 12 สิงหาคม

อยากให้ดูภาพที่ชื่อว่า หลงลืม คือ ดื่มน้ำ อย่าลืมต้นธารน่ะ

พระในบ้านที่คุณอาจหลงลืม หรือ อาจจะจำได้เฉพาะ วันพ่อ วันแม่

หนึ่งเดียวคือแม่ ไพเราะมาก

ช่วง นี้เป็นเทศกาลเข้าพรรษาทุกคนก็ต่างพากันไปทำบุญตักบาตรกันที่ัวัด ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้คุ้มครองต่างๆ นาๆ แต่คุณลืมไปบ้างหรือไม่ว่าความเป็นจริงแล้วทุกคนมีพระคุ้มครองมาตั้งแต่ ชีวิตเริ่มถือกำเนิดขึ้น พระที่คอยคุ้มครองคุณทุกวินาทีของลมหายใจโดยไม่ต้องขอ แม้จะมีประโยคที่ว่า คนดีพระย่อมคุ้มครอง แต่ก็ยังมีพระที่พร้อมจะคอยปกป้องคุ้มครองไม่ว่าคุณจะดีหรือเลว นั่นก็คือ พระในบ้าน หรือ พ่อแม่ นั่นเอง ดังคำกล่าวส่วนหนึ่งในหนังสือเรื่อง พระในบ้าน ของท่านพระเทพปริยัติโมลี (ทองดี สุรเตโช ป.ธ. 9)ที่กล่าวถึงพระในบ้านไว้ว่า
ตามปกติเรามักจะแสวงหาพระ ไปกราบไหว้พระกันตามวัด ตามถ้ำ ตามป่า หรือแม้อยู่ยอดเขาก็ยอมไปกัน ด้วยความมุ่งมั่นว่าจะเป็นมงคลแก่ตัว แม้จะไปค้างอ้างแรมกัน หรือใช้เวลาเป็นวันๆ เล่าทุกข์สุขให้ท่านฟังให้ท่านช่วยแก้ปัญหาชีวิตซึ่งมันคับอกคับใจให้ “พระนอกบ้าน” ที่ว่ามานี้เราไปหาได้ บูชาได้ และทำได้บ่อยๆ เสียด้วยซ้ำไป แต่ในเราทั้งหลายนี่ จะมีสักกี่คนเล่าที่นึกถึง “พระในบ้าน” กัน พระในบ้านที่ใจจดใจจ่อรอท่าที่บรรดาลูกๆ จะมาหามากราบไหว้บูชา หรืออย่างน้อยๆ มาให้เห็นหน้าก็ดีใจถมไปแล้ว
  • เคล็ดลับการทำบุญวันเกิดเพื่อสิริมงคล โชคลาภ ความสุข และ มั่งมีศรีสุข
วันเกิดเป็นวันตายของแม่ ทดแทนพระคุณเลี้ยงพระอรหันต์ในบ้านให้อิ่มหนำสำราญ ใส่ชุดสวย อย่ารอจนมิมีวันนั้น...ฟังเพลง สองมือแม่


ยามหนาวห่มผ้าให้ท่าน ยามร้อนพัดให้ท่านเย็น
ยามนอนดูแลนวดเฟ้น ยามตื่นท่านสดชื่นไหม
ถามดูอยากรับประทานอะไร ต้องเลี้ยงและต้องดู ด้วยรักและห่วงใย
เคารพและเชื่อฟัง อย่ากรรโชกให้เสียใจ
เอาใจใส่ด้วยตนเอง เพื่อให้ท่านสบายใจ
อยู่ไกลก็คิดถึง มีของฝากเมื่อกลับมา
ป่วยไข้รีบรักษา มรณาทำบุญให้ อุทิศไปสม่ำเสมอ

สองมือแม่

ค่าน้ำนม

ใครหนอ

พระอรหันต์อยู่ในบ้าน

สมเด็จโตท่านเป็นยอดนักเทศน์ ท่านเทศน์ได้จับใจคนฟัง ธรรมเทศนาของท่านเข้าใจง่ายไม่ต้องนั่งแปลไทยให้เป็นไทย เพราะท่านใช้คำไทยตรงๆ เป็นภาษาพื้น ๆ ที่คนทั่วไปได้ฟังก็เข้าใจ เป็นที่นิยมของชนทุกชั้น ฟังไปก็สนุกเพลิดเพลิน และยังได้คติธรรม ไม่ง่วงเหงาหาวนอนเหมือนนักเทศน์ท่านอื่น ๆ

สมเด็จโตท่านได้เล่าว่า มีคราวหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ให้แสดงธรรม ณ พระที่นั่งอมรินวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จออกมาท่ามกลางเหล่าขุนนาง ข้าราชการและข้าราชบริพาร ครั้นพอพบหน้าท่านเจ้าผู้ครองแผ่นดินก็ทรงสัพยอกว่า "ท่านเจ้าคุณ เห็นเขาชมกันทั้งเมืองว่าท่านเทศน์ดีนักนี่ วันนี้ต้องขอพิสูจน์หน่อย"

สมเด็จโตทรงทูลว่า "ผู้ที่ไม่เคยฟังในธรรม ครั้นเขาฟังธรรมและได้รู้เห็นในธรรมนี้แล้ว เขาก็ชมว่าดี ขอถวายพระพร มหาบพิตร" และในวันนี้อาตมาจะมาเทศนาเรื่อง "พระอรหันต์อยู่ในบ้าน"

ฝ่ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและเหล่าขุนนาง ข้าราชการและข้าราชบริพารต่างก็มีความสงสัย เพราะเคยได้ยินแต่ว่าพระอรหันต์ท่านจะอยู่ในถ้ำ ในป่า ในเขา ในที่เงียบสงัดหรือที่วัดวาอารามเท่านั้น แต่ทำไมสมเด็จโตจึงกล่าวว่าจะเทศนาเรื่องพระอรหันต์อยู่ในบ้าน ในขณะที่ทุกคนพากันคิดสงสัยอยู่นั้น ฝ่ายสมเด็จโตทรงทราบด้วยญาณวิถีของทุกคน

ท่านจึงขยายความต่อไปว่า จิตพระอรหันต์เป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านละจากความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่ยินดีและยินร้ายในเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเนื้อนาบุญอันยอดเยี่ยม หากใครได้ทำบุญกับพระอรหันต์แล้วไซร้ ก็ถือได้ว่าเป็นลาภอันประเสริฐที่สุด บุญที่ได้ทำกับท่านจะให้ผลในชาติปัจจุบันทันทีไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้า ทุก ๆ คนจึงมุ่งเสาะแสวงหาแต่พระอรหันต์ที่อยู่นอกบ้าน แต่ไม่เคยมองเห็นพระอรหันต์ที่อยู่ในบ้านเลย

ทุก ๆ คนที่นั่งฟังเทศนาอยู่ในที่แห่งนั้นต่างทำสีหน้างุนงงไปตามกันเพราะไม่เข้า ใจความหมาย สมเด็จโตจึงเทศนาต่อไปว่า พระอรหันต์คือพระผู้ประเสริฐ คนเราทั้งหลายพยายามค้นหาพระผู้ประเสริฐ เพียงหวังที่จะยึดท่าน เกาะผ้าเหลืองท่าน เกาะหลังของท่านเพื่อให้ท่านพาไปสู่ความสุข แม้ว่าท่านจะอยู่ไกลสุดขอบฟ้า คนเราก็ยังอุตสาห์ดั้นด้นดิ้นรนไปหา เพียงหวังเพื่อยึดเหนี่ยวและบูชาท่าน แต่พระที่อยู่ภายในที่ใกล้ตัวที่สุดกลับมองข้าม มองไม่เห็นเหมือนใกล้เกลือแต่กลับไปกินด่าง อันน้ำใจของพ่อแม่ที่ให้ต่อลูก มีแต่ความบริสุทธิ์ ไม่คิดหวังสิ่งใดตอบแทนเช่นเดียวกับน้ำใจของพระอรหันต์ที่ให้ต่อมนุษย์ ก็มีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกัน

พ่อแม่จึงเปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก ท่านมีน้ำใจบริสุทธิ์ต่อลูกมากมายนัก ท่านเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่อยู่ในท้องของท่าน ทนทุกข์ทรมานร่วมเก้าเดือนบ้างสิบเดือนบ้าง แต่ท่านก็ไม่เคยปริปากบ่นสักนิด มีแต่ความสุขใจ แม้ลูกเกิดออกมาแล้วพิกลพิการ หูหนวกตาบอด ท่านก็ยังรักยังสงสารเพราะท่านคิดเสมอว่านั้นคือสายเลือด ถือว่าเป็นลูกไม่เคยคิดรังเกียจและทอดทิ้ง แต่ท่านกลับจะเพิ่มความรักความสงสารมากยิ่งขึ้น ครั้นตอนที่เราเป็นเด็กเล็กๆ ก็ซุกซนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราเคยหยิก เคยข่วน ทุบ ตี เตะ ต่อย กัดหรือด่าทอพ่อแม่ต่างๆนานา เพราะความไร้เดียงสา ท่านก็ไม่เคยโกรธเคือง กลับยิ้มร่าชอบใจเพิ่มความรักความเอ็นดูให้เสียอีก แม้เราจะเป็นผู้ใหญ่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่บางครั้งด้วยความโกรธ ความหลง เราก็ยังทุบตีหรือด่าทอท่านอยู่ แทนที่ท่านจะโกรธถือโทษเอาผิดต่อเรา ท่านกลับยอมนิ่งเฉยยอมที่จะทนรับทุกข์เพียงฝ่ายเดียว ยอมเสียน้ำตา ยอมเป็นเครื่องรองรับมือ รับเท้า และปากของเรา สำหรับลูกแล้ว ท่านเสียสละให้ทุกอย่าง ท่านให้อภัย ในการกระทำของเราเสมอเพราะท่านกลัว เราจะมีบาปมีกรรมติดตัว จึงยอมที่จะเจ็บยอมทุกข์เสียเอง ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะรักเรา และหวังดีต่อเราอย่างจริงจังและจริงใจเหมือนพ่อแม่

ท่านเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กจนเราเติบใหญ่ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ และกำลังทรัพย์ให้แก่เราอย่างมากมาย จนไม่อาจประมาณค่าเป็นตัวเลขได้ ทั้งนี้เพราะมันมากมายจนเกินกว่าจะประมาณค่าได้ และในบางครั้งลูกหลงผิดเป็นคนชั่วด้วยอารมณ์แห่งโทสะเป็นคนเมาขาดสติ ก่อกรรมทำเข็ญเป็นที่เดือดร้อนแก่ชาวบ้าน ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของบ้านเมือง ในสายตาของท่านแล้ว เมื่อมีภัยสู่ลูกก็ยังโอบไปปกป้องรักษาช่วยเหลือลูกอย่างเต็มกำลัง และสุดความสามารถ ยอมเสียทรัพย์สินและเงินมากมายเพื่อให้ลูกได้พ้นผิด ถึงแม้ว่าในบางครั้งลูกต้องถูกจองจำหมดแล้วซึ่งอิสระภาพด้วยอาญาแห่งแผ่นดิน ก็คงมีแต่พ่อแม่เท่านั้นที่คอยหมั่นดูแลไปเยี่ยมไปเยียน คอยส่งน้ำส่งข้าวปลาอาหาร คอยให้กำลังใจแก่ลูก ให้ต่อสู้กับความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานของจิตใจที่ลูกได้รับ และรอนับเวลาที่ลูกจะกลับมาสู่อ้อมกอดอีกครั้งหนึ่ง

น้ำใจที่มีต่อลูกเช่นนี้เปรียบเท่ากับน้ำใจของพระอรหันต์โดยแท้ พ่อแม่จึงเป็นพระอรหันต์ในบ้านของเราจริงๆ ทำไมพวกท่านจึงไม่คิดที่จะทำบุญกับพระอรหันต์ที่อยู่ในบ้านของท่านเล่า

สำหรับลูก ถึงแม้พ่อแม่จะเป็นโจรเป็นคนชั่วในสายตาของบุคคลอื่น แต่สำหรับลูกแล้วท่านเสียสละได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง แม้แต่ชีวิตท่านก็สามารถเสียสละให้ลูกได้ พ่อแม่มีลูกนับ ๑๐ คนเลี้ยงดูมาเติบใหญ่ แต่ลูกทั้ง ๑๐ คนกลับเลี้ยงดูพ่อแม่เพียง ๒ คนไม่ได้ ชอบเกี่ยงกันเพราะลูกเหล่านั้นกำลังลืมคำว่า พระคุณของพ่อแม่

ยามที่พ่อแม่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เราควรที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่ โดยการซื้ออาหารการกินซื้อเสื้อผ้า พาท่านไปทำบุญทำทาน เข้าวัดเข้าวา อะไรก็ตามที่ทำแล้วให้ท่านมีความสุขก็ควรทำให้ท่าน ดูแลความทุกข์สุขและเลี้ยงดูจิตใจท่าน เชื่อฟังในโอวาทคำเตือนของท่าน คำพูดคำจาที่จะพูดกับท่านก็ต้องระมัดระวังเพราะคนแก่นั้นใจน้อย ต้องรักษาน้ำใจท่านไว้ด้วยคำพูดที่นิ่มหู ฟังดูแล้วไม่ทำให้ท่านไม่สบายใจ ไม่ปล่อยทิ้งให้ท่านอยู่อย่างว้าเหว่ คอยเอาใจใส่ปรนนิบัติดูแลท่านอย่างใกล้ชิด แต่คนส่วนมากมักจะทำบุญให้พ่อแม่ เมื่อยามที่ท่านตายจากเราไปแล้ว เพราะนั่นคือการพลาด และเป็นการพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเราเอง ซึ่งความจริงแล้วเราควรที่จะทำบุญให้กับพ่อแม่ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้กตัญญูกตเวที

ขอให้สาธุชนทั้งหลายผู้มาได้ฟังธรรมในวันนี้ จงกลับไปทำบุญกับพ่อแม่ผู้เป็นพระอรหันต์ในบ้าน การทำบุญแบบนี้จะได้อานิสงส์ทันตาเห็นในชาติปัจจุบัน บุญที่ให้ผลในชาติปัจจุบัน คือบุญที่ทำกับพระอรหันต์ผู้ประเสริฐ แต่พระอรหันต์ที่อยู่นอกบ้าน พวกท่านไม่อาจจะล่วงรู้ได้ว่าองค์ใดจริงหรือไม่จริง แต่ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดและเป็นของจริง และบูชาได้อย่างแน่นอน ไม่เคยเห็นผู้ใดเลยที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่แล้ว ต้องพบกับความวิบัติไม่เคยมี มีแต่จะทำมาหากินอาชีพอะไรก็จะเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟก็ไม่ไหม้ มีแต่ความสุข อายุยืนยาวตายตามกาลเวลา

ขอให้ท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้ จงใช้สติและพิจารณาในเรื่องราวต่างๆที่อาตมาได้เทศนาให้ฟังในครั้งนี้ให้ดี แล้วประโยชน์และความสุข ก็จะบังเกิดแก่ท่านทั้งหลายอย่างทันตาเห็น เอวัง...ก็มีด้วยประการฉะนี้ขอถวายพระพร

ฝ่ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เหล่าขุนนางข้าราชการและข้าราชบริพารทั้งปวง ได้ฟังคำเทศนาของสมเด็จโตจบลง บ้างน้ำตาก็คลอเบ้าทั้งสอง บ้างน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาสุดที่จะกลั้นได้ ด้วยความรู้สึกรักสงสารและคิดถึงพระคุณพ่อแม่ขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจ อย่างที่ไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย

เจ้าผู้ครองแผ่นดินแห่งสยามประเทศจึงตรัสด้วยพระสุรเสียงอันสั่นเครือ ปนน้ำพระเนตรว่า "ท่านเจ้าคุณท่านเทศน์ได้จับใจยิ่งนัก และขอให้ทุกคนจงกลับไปทำบุญกับพ่อแม่ผู้เป็นพระอรหันต์เถิด"

จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต

------------------------------------------------------------------------------------------

ของขวัญวันแม่ที่แม่ต้องชอบเพราะเป็นกล่องเพลงแบบ Vintage บรรจุเพลงสุนทราภรณ์ถึงกว่า 2000 เพลง...อ่านต่อ!!!