Sunday, July 29, 2018

Mountain ปรัชญาเซน ภูเขา

 



ก่อนที่หลวงจีนจะพาหญิงสาวขึ้นไปบนเขาสูง , ท่านถามหญิงสาวว่า : ภูเขานี้เป็นอย่างไร ?
หญิงสาวพูดว่า : ผาชัน, สูงใหญ่, สูงลิบลิ่ว, สวยงาม

อาจารย์พูดว่า : "ขึ้นเขากับข้า" ตลอดทางที่เดินขึ้นเขาไม่พูดสิ่งใดเลย
เดินไปเดินไป, หญิงสาวเหนื่อยแล้ว, ล้าแล้ว, ทางเดินไม่ง่ายเลย, หญิงสาวบ่นอย่างมากมาย.

เมื่อไปถึงยอดเขา, อาจารย์ถาม : "ภูเขาที่เจ้าเห็นเมื่อกี้นี้ล่ะ?"
หญิงสาวพูด : "ภูเขาลูกนี้ไม่ดี, มีแต่ทางเศษหิน, ต้นไม้ก็งอกไม่ดี.
แต่ว่า, มองออกไปไกลลิบๆ, ภูเขาลูกที่อยู่ตรงหน้าสวยกว่าเสียอีก."

อาจารย์แย้มยิ้ม, พูดว่า : "เมื่อเธอรู้จักกับคนๆหนึ่ง, ก็คือการมองดูภูเขาจากที่ไกลๆ,
ตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา ;
เมื่อรู้จักแล้ว, ก็คือการเดินขึ้นเขา, ที่เธอมองเห็นล้วนแต่คือรายละเอียดธรรมดาทั่วไป ;
ไปถึงยอดเขา, ตาของเธอก็เห็นแต่เพียงภูเขาอีกลูกหนึ่งเท่านั้น

ภูเขาไม่ได้เปลี่ยน, ใจของเธอนั่นเองที่เปลี่ยน.
ตาของเธอเปลี่ยนไป, การมองก็เปลี่ยนไป.
เมื่อไม่มีความศรัทธาเทิดทูน, ภูเขาก็ไม่ได้สูงสง่าน่าคร้ามเกรงอีก.
เธอตัดพ้อต่อว่ายิ่งมาก, ก็ยิ่งได้รับบาดแผลมาก.
ทำไมเธอจึงสามารถมองเห็นภูเขาอีกลูกหนึ่งที่บนยอดเขาเล่า ?
เป็นเพราะภูเขาที่เธอเหยียบเอาไว้ใต้ฝ่าเท้ายกสายตาของเธอให้สูงขึ้นเท่านั้นเอง.

คนเราขอเพียงรู้จักถนอมรักสิ่งที่มีที่ครอบครองในบัดนี้, จึงจะมีความสุขที่แท้จริง !
รักถนอมคนทุกคนที่อยู่ข้างกาย, และเรื่องทุกเรื่องใกล้ๆตัวให้ดีๆ ,
สิ่งเหล่านี้คือบุญวาสนาที่ทำมาแต่ปางก่อนนับหมื่นปีของเธอ !


SE-ED ขอแนะนำหนังสือดีๆ


คำสอนเซน ภาคจิตวิญญาณแห่งพุทธะ


พระวรกายของตถาคต ทอดเหยียดยาวใต้ต้นสาละคู่นั้น ท่านทรงทอดพระเนตร เพ่งดูผืนแผ่นดินธรณีอีกคราหนึ่ง เสมือนพระพุทธองค์ทรงบอกให้พระเเม่ธรณีเป็นพยานให้แก่ตัวท่านอีกครั้ง
 "คำสอนเซน ภาคจิตวิญญาณแห่งพุทธะ" เล่มนี้ ได้ถ่ายทอดเนื้อหาธรรมที่ตรงตามแบบแผนแห่งคำสอนนิกายเซนในประเทศไทย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งทางครูสอนเซนทั้งหลายในรุ่นก่อนๆ ได้สืบทอดคำสอนเหล่านี้มาโดยตรงจากองค์พระศาสดา เพื่อนำไปชี้ทางหลุดพ้นให้แก่บรรดาลูกศิษย์ของตนเอง มาหลายต่อหลายรุ่นแล้ว เป็นการสอนโดยมุ่งเน้นที่จะคุ้ยเขี่ยธรรมะให้ลูกศิษย์ ได้ตระหนักชัดและซีมซาบกลายเป็นเนื้อหาเดียวกันกับธรรมชาติดั้งเดิมแท้ ซึ่งคือ ตถตา ความเป็นเช่นนั้นของมันเองอยู่อย่างนั้น มันเป็นธรรมชาติแห่งธรรม ที่อยู่นอกเหนือภาวะความหลุดพ้นและความไม่หลุดพ้น ธรรมะในหนังสือเล่มนี้จึงถูกเขียนขึ้นตามแบบแผนแห่งคำสอนเซนอย่างแท้จริง

Saturday, July 28, 2018

แค่แบมือขวาดูความยาวของนิ้วก็รู้นิสัยใจคอได้ ที่อเมริกากำลังฮิตดูกัน !!!




วิธีการดูของเค้าง่าย และ แม่นมาก แค่แบมือขวาดูความยาวของนิ้วก็รู้นิสัยใจคอได้ ที่อเมริกากำลังฮิตดูกัน รีบชวนเพื่อนๆ ญาติพี่น้องมากลองเช็คกันเลยว่าแม่นแค่ไหน

แบบ A นิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้ เป็นคนประเภทมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คน

คนประเภทนี้มักจะมีคนชอบมารายล้อมอยู่เสมอ เป็นที่ชื่นชอบของใครๆที่ได้อยู่ใกล้ เรียกได้ว่า มีเสน่ห์ และก็สามารถใช้เสน่ห์มากทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจได้ แถมยังมีความสามารถในการแก้ปัญหาได้ยอดเยี่ยม ถ้าหากมีปัญหาที่แก้ไม่ตกล่ะก็ มาหาคนประเภทนี้จะช่วยให้คำปรึกษาได้ดีเชียวล่ะ

แบบ B นิ้วชี้ยาวกว่านิ้วนางเป็นคนประเภทมั่นใจในตัวเองที่ไว้ใจได้
คนประเภทนี้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าต้องจัดการงานใดๆ เขาจะเป็นคนที่ทำออกมาได้ดี สามารถไว้ใจได้เลย ทำงานแบบลุยเดียวจะเก่งกว่าทำงานแบบทีมเวิร์ค เป็นคนไม่ชอบให้ใครมารบกวนถูกจุกจิกกวนใจ ปล่อยให้คนประเภทนี้ได้ทำตามวิธีของตัวเองแล้วผลลัพธ์จะออกมาดีแน่นอน

แบบ C นิ้วชี้กับนิ้วนางยาวพอๆกัน เป็นคนรักสันติ ไม่ชอบการต่อสู้ขัดแย้ง

คนประเภทนี้จะมีความประนีประนอมสูง เข้ากันได้กับผู้คนและ เพื่อนฝูง ชอบใช้ชีวิตแบบเรียบๆและมั่นคง ไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง จึงเข้ากับใครๆได้เก่ง แต่ถ้าหากคนประเภทนี้โกรธขึ้นมาล่ะก็ จะแรงมาก ต้องระวังให้ดี อย่าไปทำให้คนประเภทนี้โกรธเชียว

โดย อาจารย์ณัชชา (สพรั่ง) ปราณีรัตนา
แห่งสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ราคาพิเศษ เพียง 204 บาท สั่งซื้อ!!!
ไพ่ยิปซี (ทาโร่ต์) ศาสตร์และศิลป์แห่งการดูดวงอีกแขนงหนึ่ง ซึ่งมีมาช้านาน ได้รับการยอมรับและเชื่อถือทั้งในอดีตและปัจจุบัน ความอัศจรรย์ของตัวเลขที่มีเพียงไม่กี่ตัวก็สามารถพยากรณ์ พร้อมทั้งอธิบายในเรื่องความเป็นมาและความเป็นไปของมนุษย์ได้อย่างเป็นเรื่องราว และยังทำให้เราได้ทราบถึงลักษณะนิสัยใจคอของบุคคลได้ดี และยังรวมถึงเรื่องในอดีต ปัจจุบัน อนาคต เรื่องงาน การเงิน ความรัก อุปสรรค ปัญหาสุขภาพ อาชีพ ฯลฯ ได้ระดับหนึ่ง

ไพ่ยิปซี (ทาโร่ต์)

  • พิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา
  • แถมฟรีไพ่ 1ชุด (78 ใบ) ตัวไพ่ทำด้วยกระดาษแข็งอย่างดี
  • เนื้อหาบอกเป็นขั้นเป็นตอน ง่ายต่อการอ่านทำความเข้าใจได้ด้วยตัวเอง
  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกฝน

Thursday, July 19, 2018

หมอภาคย์ประทับใจ ในหลวงทั้ง 2 พระองค์ ร 9 ร 10 มาฟังกัน!!!




เมื่อกี้ใครเปิดช่อง 5 เหมือนกันบ้าง  ดูไปร้องไห้ตามหมอภาคย์ไป

VDO ช่อง 5 สัมภาษณ์ หมอภาคย์ถึงความประทับกับภาระกิจ ถ้ำหลวง

พิธีกรถามว่า  จากปฏิบัติการช่วยหมูป่าครั้งนี้ หมอภาคย์ ประทับใจอะไรมากที่สุด...หมอนิ่ง สีหน้าเปลี่ยน หน้าจอนิ่งไปครู่ใหญ่   กล้องจับไปที่ใบหน้านายทหารหนุ่มที่มองดูภายนอกแสนจะเข้มแข็ง  แต่ขณะนี้เค้ากลับกำลังกลืนน้ำตาลูกผู้ชายให้ไหลลงไปข้างใน

ผมอยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างนี้ไปตลอดครับ  อยากให้มีบรรยากาศของความสามัคคี  ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ  เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  อย่างที่ผมเห็นมาตลอดที่ถ้ำหลวง  ชาวนายอมให้น้ำท่วมที่นาของตัวเอง เพื่อช่วยเด็กๆ และมีจิตอาสาเป็นจำนวนมากที่มาช่วยกัน  มีคนมาเดินเก็บขยะ ที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ทำทิ้งๆกันไว้

และที่สำคัญ คือในหลวงรัชกาลที่ 10  ครับ  (น้ำตาเริ่มเอ่อ  นิ่ง  พูดไม่ออก) พี่น้อย  (ผ.บ.หน่วยซีล) บอกกับพวกเราว่า ในหลวงท่านมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพวกเรามาก  เครื่องมือชิ้นไหน ที่ต้องการ แต่ประเทศไทยไม่มี  พระองค์ท่านก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ   หาส่งมาให้  (น้ำตาเอ่อ)

และ(นิ่ง  น้ำตาเอ่อ นาน เงียบ)  และและ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ครับ
(หมอ พยายามกล้ำกลืนเพื่อไม่ให้น้ำตาไหล)  ก่อนจะเข้าถ้ำ พี่คนหนึ่งบอกว่าให้นึกถึงพระองค์ท่านด้วย  พระองค์ท่านมองอยู่ ท่านดูแลพวกเราอยู่  แรกๆ ผมก็ไม่อะไรมาก  แต่ไม่น่าเชื่อครับเพราะเราเข้าไปอยู่ในนั้น 9 วัน  และแผนวันสุดท้าย คือผมกับหน่วยซีลอีก 3 รวมโค้ชเอกเป็น 4 คน ตามแผนพวกเรา 4 คนจะออกเป็นชุดสุดท้าย  แต่ไปมา แผนเคลื่อน เราติดกันรวมอยู่ 9 คน  (พูดตะกุกตะกักกลืนน้ำตา) 

ช่วงที่น้องชุดที่3 ออกมา  และกำลังจะเอาน้องๆ ไปขึ้นเฮลิปคอปเตอร์ (หมอพยายามสะกดกลั้นกลืนน้ำตาตัวเอง จนคนดูอย่างเราต้องสะอื้น)   น้องบิวบอกว่า เห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 จูงมือเด็กๆ 3 คนมาส่งขึ้นเฮลิปคอปเตอร์  (หมอพยายามกลืนน้ำตา)

นายทหารที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่ง เข็มแข็ง แต่กลับมีความอ่อนโยนมากมาย  โดยเฉพาะ เมื่อกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง  ถึงกับต้องพยายามสะกดกลั้นกลืนน้ำตาลูกผู้ชาย

ดูไปร้องไห้ตามหมอไป
#รักทหารไทยที่สุดครับผม
#ประทับใจหมอทหารผู้อ่อนโยนมากครับ
#ภาคย์โลหารชุน

#หมายเหตุ:ถ้ามีข้อความส่วนไหนไม่ตรง  หรือขาดตกไป ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ บังเอิญว่าดูรายการจบ แล้วก็รีบเขียนทันที  ทุกถ้อยคำมาจากความจำล้วนๆค่ะ

อานิสงส์ มหาศาล….12 วิธีทำบุญ กับ โรงพยาบาล!!!

‘บริจาคให้โรงพยาบาล เป็นทานของพระโพธิสัตว์’ กุศลยิ่งใหญ่ เห็นผลในชาตินี้!!!





คนไทยเราเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอ

มีเมตตาธรรมเป็นเครื่องค้ำจุนอยู่ในหัวใจ นิยมการทำบุญด้วยการให้ทานและช่วยเหลือเผื่อแผ่สงเคราะห์ผู้อื่นอยู่เป็นนิจ ในที่นี้ผมอยากให้ข้อเสนอวิธีการทำบุญแบบใหม่ นอกเหนือจากการทำบุญกับวัด (ทอดกฐิน, ทอดผ้าป่า, ถวายสังฆทาน, ตักบาตร), ทำบุญกับผู้ยากไร้ด้วยการให้ทานบริจาค, การปล่อยนกปล่อยปลา, การถือศีลกินเจ ซึ่งเรานิยมประพฤติปฏิบัติกันมานานแล้ว นั่นคือการทำบุญกับโรงพยาบาลซึ่งเป็นที่พำนักพักพิง ฝากผีฝากไข้ของผู้คนที่เกิดความเจ็บป่วย ต้องการบำบัดเยียวยาดูแลรักษา รูปแบบดังกล่าวมานี้มีทั้งการสละทรัพย์, สละแรงกาย, สละอวัยวะ, สละปัญญาความคิดเห็น และสละเวลาอันมีค่าของทุกท่าน ดังจะได้กล่าวถึงต่อไปนี้
1.การบริจาคเงิน ในกรณีมีงานศพหรืองานมงคลสมรส เราพบว่าจะมีเจ้าภาพบริจาคเงินให้เป็นสาธารณะประโยชน์แก่ทางโรงพยาบาลอยู่เนื่องๆโดยนำไปใช้จ่ายตามความจำเป็น
2.การช่วยจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ โรงพยาบาลหลายแห่งโดยเฉพาะในต่างจังหวัด และพื้นที่ทุรกันดารยังขาดแคลนตู้อบเด็ก เครื่องช่วยหายใจ ถังอ็อกซิเจน อุปกรณ์กู้ชีพ และอื่นๆซึ่งสามารถสอบถามได้เป็นที่ๆไปว่ายังขาดเหลืออะไร
3.การจัดหาอุปกรณ์สำหรับห้องผู้ป่วยพิเศษ คนไข้ส่วนใหญ่อยากอยู่ห้องพิเศษแยกเป็นสัดส่วนมากกว่าอยู่ห้องรวม โรงพยาบาลรัฐบาลมักมีปัญหาเรื่องห้องพิเศษเต็ม มีห้องพิเศษไม่เพียงพอ บางครั้งได้อาคารใหม่มา สร้างเสร็จแล้วแต่ไม่มีงบประมาณสำหรับการตกแต่ง ต้องอาศัยภาคประชาชนสนับสนุน ซึ่งมีทั้งบริจาคสมทบรายย่อย จนไปถึงบริจาคก้อนใหญ่
4.การบริจาคอาคารฯ ซึ่งมีทั้งบริจาคสมทบรายย่อย จนไปถึงบริจาคก้อนใหญ่สร้างอาคารใหม่ให้ทั้งหลัง ถ้าท่านไปตามโรงพยาบาลต่างๆ จะพบเห็นมีอาคารที่ตั้งชื่อตามชื่อผู้บริจาคอยู่เป็นจำนวนมาก มีทั้งชื่อเศรษฐี คหบดี และที่พบบ่อยที่สุดคือ อาคารที่พระท่านหาทุนให้ เรียกว่าเป็นอาคารที่สงฆ์อุปถัมภ์ให้ว่างั้นเถอะ
5.ให้ทุนการศึกษากับคนในท้องที่ เช่น พยาบาล ทันตภิบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสาขาต่างๆ ซึ่งยังขาดแคลนอีกแยะ โดยเมื่อจบการศึกษาแล้ว ให้กลับไปปฏิบัติงานในพื้นที่ต้นสังกัด ข้อนี้ถือว่าเป็นการสร้างคน และจะเป็นอานิสสงค์ที่สำคัญก่อเกื้อประโยชน์มาก เพราะโรงพยาบาลของประเทศไทย โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและพื้นที่ทุรกันดารยังขาดแคลนนักเรียนทุนอีกมาก รัฐบาลก็ไม่มีงบประมาณเพียงพอในด้านนี้
6.การบริจาคอวัยวะ ทุกวันนี้แก้วตาก็ดี ไตก็ดี หัวใจก็ดี หรือแม้กระทั่งร่างกายทั้งตัวที่เอาไปใช้ชำแหละเพื่อการศึกษาทางกายภาค ล้วนยังเป็นที่ต้องการซึ่งท่านสามารถยื่นความจำนงค์ได้ที่ทุกโรงพยาบาลของรัฐบาล
7.การทอดกฐินและผ้าป่า สามารถระบุเจตจำนงค์มอบให้โรงพยาบาลได้ เมื่อเรากล่าวคำถวายกฐินและประเคนให้พระภิกษุแล้ว ท่านสามารถถวายต่อให้โรงพยาบาลได้
8.การร่วมเป็นกรรมการที่ปรึกษา หรือ กรรมการมูลนิธิของโรงพยาบาล ท่านสามารถมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำ เสนอข้อคิดข้อควรปรับปรุง ปัญหาและข้อบกพร่องต่างๆที่ประชาชนอยากให้มีการปรับปรุงแก่โรงพยาบาลได้ ถือว่าท่านมีส่วนเป็นเจ้าของโรงพยาบาลด้วย จึงต้องร่วมด้วยช่วยกันในการปรับปรุงระบบบริการ
9.การเป็นผู้บริจาคเลือดสำรอง ประเทศไทยทุกวันนี้ ยังมีปัญหาเลือดบริจาคไม่พอเพียง ถึงแม้เหล่ากาชาดของจังหวัดและโรงพยาบาลต่างๆจะพยายามจัดหน่วยเชิงรุกเพื่อให้ได้มาซึ่งเลือดบริจาคให้พอเพียง แต่พบว่าก็ยังขาดแคลนไม่พออยู่ดี การเป็นผู้บริจาคเลือดสำรอง ที่เมื่อถึงคราจำเป็น โรงพยาบาลสามารถเรียกหาได้ทุกเมื่อ ถือเป็นความเสียสละและกุศลอันยิ่งใหญ่
10.การเป็นอาสาสมัครจิตอาสา ทุกวันนี้เรามีคนสมัครเป็นอาสาสมัครมาช่วยทำงานแบบจิตอาสา โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ หรือได้แต่ก็เพียงเล็กน้อย ในโรงพยาบาลจำนวนมาก มีทั้งผู้ป่วยอาสาช่วยผู้ป่วย (เพื่อนช่วยเพื่อน) อาสาสมัครมิตรภาพบำบัดในผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยติดเชื้อHIV ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ รูปแบบการเป็นอาสาสมัครมีทั้ง เป็นผู้ช่วยสังคมสงเคราะห์ เล่นดนตรีในโรงพยาบาล ช่วยดูแลผู้ป่วยที่มี่ญาติ ช่วยพับผ้าก๊อซ ให้กำลังใจผู้ป่วยในรูปลักษณะต่างๆ
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เดิมก็เคยเข้าข่ายจิตอาสานี้ ต่อมาเมื่อมีการมอบค่าตอบแทนให้เดือนละ 600 บาท ทำให้จิตวิญญานของเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไป
11.การให้ธรรมะบริการแก่ผู้ป่วยและญาติ ผู้ป่วยบางคนเป็นโรคร้ายแรง รักษาไม่หาย บางคนมีอาการซึมเศร้า บางคนมีอาการเครียด บางคนคิดอยากฆ่าตัวตาย บางคนก็อยากไปตายที่บ้านไม่อยากอยู่โรงพยาบาล หมอและพยาบาลบางทีก็ไม่มีเวลาพอจะใส่ใจ อธิบายและให้กำลังใจ การให้ธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เป็นกำลังใจแก่ผู้ป่วยในวาระสุดท้ายนั้น มีความจำเป็นและมีประโยชน์อย่างยิ่ง
โรงพยาบาลบางแห่งมีการนิมนต์พระภิษุกมาให้คนไข้และญาติตักบาตร บางแห่งภิกษุก็มีส่วนในการไปช่วยแนะนำ ให้ศีลให้พรแก่ผู้ป่วยระยะสุท้ายที่นอนแกร่วอยู่ในตึก นับว่าเป็นกุศลกิจที่สมควรสนับสนุนยิ่งนัก
12.ส่งคำชมเชยและให้กำลังใจ ในกรณีได้พบได้เห็นสิ่งดีๆหรือความประทับใจบางอย่างจากพฤติบริการของบุคลากรในโรงพยาบาล ท่านควรสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้เขาได้รู้ตัว เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนั้น มักถูกร้องเรียน ต่อว่าต่อขานจากผู้รับบริการมากกว่าคำชมเชย การมอบคำชมและกำลังใจ จึงเป็นน้ำทิพย์อย่างดีสำหรับบำรุงขวัญและสร้างความเชื่อมั่นกับทางโรงพยาบาล ให้พัฒนาปรับปรุงบริการให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ทั้งหมดที่กล่าวไปนั้น บางเรื่องมีผู้นิยมปฏิบัติกันมากพอสมควรแล้ว เช่น ในข้อแรกๆเกี่ยวกับการบริจาคทรัพย์สิน แต่ในข้อท้ายๆซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นที่ต้องการของโรงพยาบาลไม่ได้น้อยกว่ากันเลย ชาวบ้านยังไม่ค่อยรู้จักเท่าที่ควร จึงอยากใคร่เชิญชวน ผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายที่ใคร่อยากทำบุญ ได้มาช่วยกันสละทรัพย์อย่างชาญฉลาด ช่วยชาติช่วยคนทุกข์ยากผ่านโรงพยาบาลกันด้วยเถิด
ขออนุโมทนาบุญครับ…

เชิญชวนเพื่อนๆพ่อแม่พี่น้องเพื่อนๆ มาร่วมกันทำบุญกับโรงพยาบาลศรีสะเกษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี. ลองชม VDO ด้านล่างนี้ จะทราบว่าแม้แต่เด็กๆก็สามารถร่วมบริจาคซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ราคา 800,000 บาท


VDO ที่ยอดเยี่ยมมากๆ อยากให้ทุกๆคนช่วยกันแบบนี้ ไม่ยาก แต่ดีจังอ่ะ

‘บริจาคให้โรงพยาบาล เป็นทานของพระโพธิสัตว์’ กุศลยิ่งใหญ่ เห็นผลในชาตินี้

ทำบุญให้ได้บุญ
   เมื่อเราทำบุญซึ่งมีอย่างย่อ ๆ ๓ ประการ คือ
๑. ทาน คือ การให้
๒. ศีล คือ การรักษาศีลให้บริสุทธิ์
๓. ภาวนา คือ การเจริญภาวนาโดยการสวดมนต์หรือเจริญสมถะ วิปัสสนา กรรมฐาน
    แต่ว่าบุญอย่างย่อนี้แบ่งย่อยออกเป็น ๑๐ อย่าง คือ
๑. บุญสำเร็จด้วยการให้ บริจาคทาน
๒. บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓. บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
๔. บุญสำเร็จด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนแก่ผู้ใหญ่
๕. บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือในการงานที่ดีที่ชอบ
๖. บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
๗. บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาในส่วนบุญส่วนกุศล
๘. บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรมะ
๙. บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรมะ
๑๐. บุญสำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
   

เมื่อ

เรารู้ว่าทำอย่างไรที่จะได้บุญ แต่จากการที่ข้าพเจ้าได้ศึกษาและปฏิบัติแล้ว บุญที่ได้สะดวก สบาย และง่ายที่สุดคือการอนุโมทนาส่วนบุญ เมื่อเห็นผู้ใดทำความดี ความงาม ที่เป็นกุศลแล้ว เพียงแค่เปล่งวาจา "อนุโมทนา สาธุ" เพียงเท่านี้เราก็ได้บุญด้วยแล้ว และการที่เรามีจิตที่เป็นกุศลเช่นนี้ อย่างน้อยเราก็ไม่อิจฉาริษยาเมื่อเห็นผู้อื่นทำความดี
   อีกอย่างหนึ่งสำหรับการทำบุญ ควรจะทำให้ตรงกับสิ่งที่เราอธิษฐาน เช่น ถ้าเราอยากสวย หล่อ รูปร่างงดงาม ควรทำบุญด้วยสิ่งที่สวยงามเช่นดอกไม้ หรือ เครื่องหอมเช่นธูปหอม
   ถ้าอยากฉลาดปราดเปรื่องมีปัญญา ควรทำบุญด้วยสิ่งที่ให้แสงสว่าง เช่น เทียน ไฟฟ้า หรือทำบุญค่าไฟฟ้ากับวัด
   ถ้าอยากมีสุขภาพดี ควรทำบุญกับโรงพยาบาลในการซื้อเครื่องมือแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป ทำบุญกับผู้ป่วยอนาถา หรือทำบุญซื้อยารักษาโรคถวายพระสงฆ์
   ถ้าอยากมีร่ำรวย เหลือกิน เหลือใช้ ก็ต้องเป็นผู้สละ ผู้ให้ในการบริจาคทาน
ถ้าอยากมีการศึกษาดี ก็ควรทำบุญกับโรงเรียน บริจาคทุนการศึกษาให้กับเด็กด้อยโอกาส
   ถ้าอยากมีอายุยืนยาว ก็ให้ชีวิตกับผู้อื่นโดยการปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า แต่ปล่อยแล้ว ไม่ควรไปกินเขาอีก ถ้าคิดจะทำร้ายเขาโดยการกินเขาก็ไม่ควรไปให้ความหวังแก่เขาโดยการให้ชีวิตเขาเลย ก่อนที่จะปล่อยเขาไป ควรตั้งจิตอธิษฐานว่า ให้เขาไปดีมีความสุขสวัสดี ให้พบกับชีวิตใหม่ที่สุขสดใส อย่าได้มีทุกข์โศกโรคภัย จงอย่าตั้งจิตอธิษฐานให้สัตว์ที่เราปล่อยนั้นนำพาความโชคร้าย ความทุกข์โศกโรคภัยของเราไป เพราะการที่เราให้อย่างไรกับเขา สิ่งเหล่านั้นจะกลับมาหาเรา เรายิ้มให้ผู้อื่น ผู้อื่นก็ยิ้มตอบ เราด่าว่าเขา เขาก็ด่าว่าตอบ ดังนั้นจะอธิษฐานให้สัตว์ที่เราปล่อยไป ให้ไปพบกับความสุข ความดีงามตลอดไป อธิษฐานแต่สิ่งที่ดี ที่เจริญ แล้วสิ่งเหล่านั้นจะกลับมาหาเราเอง
    ในการทำบุญของเราไม่ควรทำให้ตนเองหรือผู้อื่นเดือดร้อนจากการทำบุญ มิฉะนั้นจะได้บาปมาด้วยเนื่องจากการเบียดเบียนตนเอง
    ในแต่ละวันเราควรจะทำบุญเพื่อสร้างสมเอาไว้อย่างใดอย่างน้อยที่สุดก็อย่างหนึ่งในสิบอย่าง ถ้าไม่ได้ทำทานก็สวดมนต์หรืออนุโมทนาบุญ แต่ทางที่ดีที่สุดควรทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
   เมื่อเราทำบุญแล้ว ได้บุญแล้ว มีบุญแล้วก็ไม่ควรลืมที่จะแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้มีพระคุณแก่เรา เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย...จากธรรมะไทย

‘บริจาคให้โรงพยาบาล เป็นทานของพระโพธิสัตว์’ กุศลยิ่งใหญ่ เห็นผลในชาตินี้!!!


 


เชิญชวนเพื่อนๆพ่อแม่พี่น้องเพื่อนๆ มาร่วมกันทำบุญกับโรงพยาบาลศรีสะเกษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี. ลองชม VDO ด้านล่างนี้ จะทราบว่าแม้แต่เด็กๆก็สามารถร่วมบริจาคซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ราคา 800,000 บาท



VDO ที่ยอดเยี่ยมมากๆ อยากให้ทุกๆคนช่วยกันแบบนี้ ไม่ยาก แต่ดีจังอ่ะ

‘บริจาคให้โรงพยาบาล เป็นทานของพระโพธิสัตว์’ กุศลยิ่งใหญ่ เห็นผลในชาตินี้

ทำบุญให้ได้บุญ
   เมื่อเราทำบุญซึ่งมีอย่างย่อ ๆ ๓ ประการ คือ
๑. ทาน คือ การให้
๒. ศีล คือ การรักษาศีลให้บริสุทธิ์
๓. ภาวนา คือ การเจริญภาวนาโดยการสวดมนต์หรือเจริญสมถะ วิปัสสนา กรรมฐาน
    แต่ว่าบุญอย่างย่อนี้แบ่งย่อยออกเป็น ๑๐ อย่าง คือ
๑. บุญสำเร็จด้วยการให้ บริจาคทาน
๒. บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓. บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
๔. บุญสำเร็จด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนแก่ผู้ใหญ่
๕. บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือในการงานที่ดีที่ชอบ
๖. บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
๗. บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาในส่วนบุญส่วนกุศล
๘. บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรมะ
๙. บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรมะ
๑๐. บุญสำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
   

เมื่อ

เรารู้ว่าทำอย่างไรที่จะได้บุญ แต่จากการที่ข้าพเจ้าได้ศึกษาและปฏิบัติแล้ว บุญที่ได้สะดวก สบาย และง่ายที่สุดคือการอนุโมทนาส่วนบุญ เมื่อเห็นผู้ใดทำความดี ความงาม ที่เป็นกุศลแล้ว เพียงแค่เปล่งวาจา "อนุโมทนา สาธุ" เพียงเท่านี้เราก็ได้บุญด้วยแล้ว และการที่เรามีจิตที่เป็นกุศลเช่นนี้ อย่างน้อยเราก็ไม่อิจฉาริษยาเมื่อเห็นผู้อื่นทำความดี
   อีกอย่างหนึ่งสำหรับการทำบุญ ควรจะทำให้ตรงกับสิ่งที่เราอธิษฐาน เช่น ถ้าเราอยากสวย หล่อ รูปร่างงดงาม ควรทำบุญด้วยสิ่งที่สวยงามเช่นดอกไม้ หรือ เครื่องหอมเช่นธูปหอม
   ถ้าอยากฉลาดปราดเปรื่องมีปัญญา ควรทำบุญด้วยสิ่งที่ให้แสงสว่าง เช่น เทียน ไฟฟ้า หรือทำบุญค่าไฟฟ้ากับวัด
   ถ้าอยากมีสุขภาพดี ควรทำบุญกับโรงพยาบาลในการซื้อเครื่องมือแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป ทำบุญกับผู้ป่วยอนาถา หรือทำบุญซื้อยารักษาโรคถวายพระสงฆ์
   ถ้าอยากมีร่ำรวย เหลือกิน เหลือใช้ ก็ต้องเป็นผู้สละ ผู้ให้ในการบริจาคทาน
ถ้าอยากมีการศึกษาดี ก็ควรทำบุญกับโรงเรียน บริจาคทุนการศึกษาให้กับเด็กด้อยโอกาส
   ถ้าอยากมีอายุยืนยาว ก็ให้ชีวิตกับผู้อื่นโดยการปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า แต่ปล่อยแล้ว ไม่ควรไปกินเขาอีก ถ้าคิดจะทำร้ายเขาโดยการกินเขาก็ไม่ควรไปให้ความหวังแก่เขาโดยการให้ชีวิตเขาเลย ก่อนที่จะปล่อยเขาไป ควรตั้งจิตอธิษฐานว่า ให้เขาไปดีมีความสุขสวัสดี ให้พบกับชีวิตใหม่ที่สุขสดใส อย่าได้มีทุกข์โศกโรคภัย จงอย่าตั้งจิตอธิษฐานให้สัตว์ที่เราปล่อยนั้นนำพาความโชคร้าย ความทุกข์โศกโรคภัยของเราไป เพราะการที่เราให้อย่างไรกับเขา สิ่งเหล่านั้นจะกลับมาหาเรา เรายิ้มให้ผู้อื่น ผู้อื่นก็ยิ้มตอบ เราด่าว่าเขา เขาก็ด่าว่าตอบ ดังนั้นจะอธิษฐานให้สัตว์ที่เราปล่อยไป ให้ไปพบกับความสุข ความดีงามตลอดไป อธิษฐานแต่สิ่งที่ดี ที่เจริญ แล้วสิ่งเหล่านั้นจะกลับมาหาเราเอง
    ในการทำบุญของเราไม่ควรทำให้ตนเองหรือผู้อื่นเดือดร้อนจากการทำบุญ มิฉะนั้นจะได้บาปมาด้วยเนื่องจากการเบียดเบียนตนเอง
    ในแต่ละวันเราควรจะทำบุญเพื่อสร้างสมเอาไว้อย่างใดอย่างน้อยที่สุดก็อย่างหนึ่งในสิบอย่าง ถ้าไม่ได้ทำทานก็สวดมนต์หรืออนุโมทนาบุญ แต่ทางที่ดีที่สุดควรทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
   เมื่อเราทำบุญแล้ว ได้บุญแล้ว มีบุญแล้วก็ไม่ควรลืมที่จะแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้มีพระคุณแก่เรา เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย...จากธรรมะไทย




Sunday, July 15, 2018

นิทานสอนใจ เรื่องเด็กน้อยกับต้นแอ๊ปเปิ้ล Thai and English Version!!!




A long time ago, there was a humongous (Big) apple tree.
A little boy loved to come and play around it everyday.
He climbed to the treetop. He ate the apples.
He took a nap in its shadow. He loved the tree and the tree loved to play with him.
Time went by. The little boy had now become a teenager and he no longer played around the tree anymore.
One day, the boy came back to the tree and he discovered that it looked sad .
“Come and play with me” the tree seemed to ask the boy.
“I am no longer a kid, I do not play around trees any more,” the boy replied. “I want the latest gadgets. I need money to buy them.”
“Sorry, but I do not have money, but you can pick all my apples and sell them. Then, you will have money.”
The boy was so excited.
He grabbed all the apples on the tree and left happily.
The boy did not come back after he picked the apples. The tree was deeply saddened once again.
One day, many years later, the boy who now had turned into a man returned and the tree was thrilled!
“Come and play with me,” the tree seemed to have said.
“I do not have time to play.

I have to work for my wife and children. We need a house for shelter. Can you help me?” the man replied.
“Sorry, but I do not have any houses. But you can chop off my branches to build your house.”
So the man cheerfully cut all the branches of the tree and left happily. The tree was glad to see him happy but the man did not come back for years and years. The tree was again lonely and upset.
One hot summer day, the man returned and the tree was delighted.
“Come and play with me,” the tree seemed to say.
“I am approaching my fifties. I want to go sailing so I can relax during my holidays. Can you give me a boat?” asked the man. boat-colouring-page
“Use my trunk to build your boat. You can sail far away and be happy,” the tree seemed to have replied.
So the man joyfully cut the tree trunk to make a boat. He went sailing and did not show up for a long time.
Finally, the man returned after many years.
“Sorry, my boy. But I do not have anything for you anymore. No more apples for you,” the tree seemed to have said.
“No problem, I do not have any more teeth to bite,” the man replied.
“No more trunk for you to climb on,” the tree seemed to have responded.
“I am too old for that now too,” the man said.
“I really cannot give you anything, my boy. The only thing left is my dying roots,” the tree seemed to have said with tears.
“I do not need much now, just a place to rest. I am tired after all these years,” the man remarked.
“Good! Old tree roots are the best place to lean on and rest, Come, come sit down with me and rest,” the tree seemed to have heartily whispered.
The man sat down on the grass, leaning his weak body on the tree stump. The tree was so glad it seemed to have smiled with tears…
This is a story for everyone.
The tree is like our parents.
When we were young, we loved to play with our Mum and Dad.
When we grow up, we leave them… only come back to them when we need something or when we are in trouble.
No matter what,
our parents will always be there and give everything they could.
Just to make you happy.
You may think the boy is cruel to the tree, but that is how almost all of us treat our parents. We take them for granted. We don’t appreciate all the things that they do for us, UNTIL it’s too late.



ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีต้นแอ๊ปเปิ้ลใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง
และเด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่งชอบไปที่นั่น แล้วเล่นกับต้นแอ๊ปเปิ้ลอยู่เป็นประจำ
เขามักจะปีนขึ้นไปยังยอดไม้ เด็ดลูกแอ๊ปเปิ้ลมากิน
และงีบหลับไปที่ใต้ร่มเงาของต้นแอ๊ปเปิ้ลนั่นเอง…
เขารักต้นแอ๊ปเปิ้ลต้นนี้มาก และต้นแอ๊ปเปิ้ลก็รักที่จะเล่นกับเขาเช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไป..เด็กน้อยคนนั้นได้เติบโตขึ้น
และไม่ค่อยได้มาเล่นที่ต้นแอ๊ปเปิ้ลทุกๆ วันเหมือนแต่ก่อน
วันหนึ่งเด็กน้อยคนนั้น ก็กลับมาที่ต้นแอ๊ปเปิ้ลต้นนี้อีกครั้ง
แต่เขาดูไม่สดใสอย่างเคย ดูเศร้าสร้อย เหงาหงอย…
“มาเล่นกับฉันสิ” ต้นแอ๊ปเปิ้ลร้องเรียก
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะได้มาเล่นกับเธอได้อีก” เด็กน้อยคนนั้นตอบ

“ฉันอยากได้ของเล่นน่ะ แต่ฉันไม่มีเงินซื้อ” เด็กน้อยพูดต่อ
“ฉันเสียใจด้วยนะ ฉันก็ไม่มีเงินเลย…
แต่ถ้าเธอเด็ดลูกแอ๊ปเปิ้ลของฉันทั้งหมดไปขาย เธอก็จะมีเงินไปซื้อของเล่น”
เด็กน้อยได้ยินดังนั้นก็ตื่นเต้นเป็นอันมาก
ก่อนที่จะรีบเด็ดผลแอ๊ปเปิ้ลไปอย่างรวดเร็วและจากไปอย่างมีความสุข
โดยที่ไม่กลับมาที่นี่อีกเป็นเวลานาน…ต้นแอ๊ปเปิ้ลกลับมาเศร้าสร้อยอีก
VDO เรื่องเด็กน้อยกับต้นแอปเปิ้ล
วันหนึ่งเด็กน้อยกลับมาอีกครั้ง…แต่คราวนี้เขาได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ต้นแอ๊ปเปิ้ลตื่นเต้นดีใจมาก “มาเล่นกับฉันนะ” ต้นแอ๊ปเปิ้ลร้องเรียก
“ฉันไม่มีเวลาเล่นกับเธอหรอกนะ ฉันต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
ตอนนี้เราต้องการบ้านซักหลัง เธอพอจะช่วยฉันได้ไหม”
“ขอโทษนะ ฉันไม่มีบ้านให้เธอหรอก…
แต่เธอสามารถตัดกิ่งไม้ของฉัน แล้วนำไปสร้างบ้านได้นะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น..เขาก็ตัดกิ่งไม้แทบทั้งหมดจากต้นแอ๊ปเปิ้ล…และกลับไปอย่างมีความสุข
ต้นแอ๊ปเปิ้ลยินดีที่ได้เห็นเด็กน้อยมีความสุข
แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้กลับไปที่นั่นอีก
ต้นแอ๊ปเปิ้ลจึงกลับมาเศร้าสร้อย…และเดียวดายอีกครั้ง
วันที่อากาศร้อนวันหนึ่ง เด็กน้อยในวัยกลางคนก็กลับมา ต้นแอ๊ปเปิ้ลดีใจมาก
“มาเล่นกับฉันนะ” ต้นแอ๊ปเปิ้ลร้องเรียก
“คงไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้ฉันแก่แล้วและกำลังรู้สึกเศร้ามากด้วย
ตอนนี้ฉันอยากจะล่องเรือเพื่อผ่อนคลายซะบ้าง เธอมีเรือให้ฉันบ้างไหม”
“ใช้กิ่งไม้ที่ยังเหลืออยู่ มาสร้างเรือสิ เธอจะได้ล่องเรือออกไปและมีความสุขซะที”
เมื่อได้ยินดังนั้น เขาจึงตัดกิ่งไม้ที่เหลือทั้งหมด และนำมาสร้างเรือ
จากนั้นจึงล่องเรือออกไป… ไม่กลับมาอีกเป็นเวลานาน…
ในที่สุด…เด็กน้อยก็กลับมาที่นั่นอีกครั้ง..หลังจากที่จากไปนานหลายปี
บัดนี้เขาได้กลายเป็นชายชราไปแล้ว
“ฉันขอโทษด้วยนะเด็กน้อย ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรให้เธอได้อีกแล้ว
ฉันไม่มีแอ๊ปเปิ้ลเหลืออยู่เลย ซักลูกเดียว” ต้นแอ๊ปเปิ้ลบอก
“ฉันไม่มีฟันที่จะเคี้ยวแล้วล่ะ” เขาตอบ
“ฉันไม่มีกิ่งไม้ ให้เธอปีนเล่นได้อีกแล้วนะ”
“ฉันแก่เกินไปที่จะทำอย่างนั้นแล้วล่ะ” เด็กน้อยพูดเบาๆ
“ฉันไม่มีอะไรจะให้เธอได้อีกแล้ว…สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือ..รากของฉันที่ตายแล้วเท่านั้น” ต้นแอ๊ปเปิ้ลพูดทั้งน้ำตา
“ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว…นอกจากที่พักผ่อน..
ตอนนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกินกับเรื่องราวที่ผ่านๆมา”
เด็กน้อยในวัยชราตอบอย่างอ่อนล้า
“ดีเลย…รากไม้แก่ๆนี้ เป็นที่ที่เหมาะแก่การที่เธอจะเอนหลัง
..และนอนพักผ่อน..มานี่สิมานอนข้างๆตัวฉัน…และพักผ่อนซะที”
เด็กน้อยล้มตัวลงนอนใต้ต้นแอ๊ปเปิ้ลอย่างมีความสุข
ขณะที่ต้นแอ๊ปเปิ้ลนั้นมองเด็กน้อยนอนหลับอย่างปลื้มปิติ…พร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา..
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
นี่เป็นเรื่องราวของทุกๆคน…โดยต้นแอ๊ปเปิ้ลก็เปรียบเสมือน..”พ่อแม่ของเรา“..
เมื่อเรายังเด็ก…เราชอบที่จะเล่นกับพวกท่าน
แต่เมื่อเราเติบโตขึ้น..เรากลับจากท่านไป..
เราจะกลับไปก็ต่อเมื่อ…เราต้องการบางสิ่งบางอย่าง..หรือมีปัญหาเท่านั้น..
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น…ท่านก็ยังคงอยู่ที่นั่นเสมอ..
และจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำได้..ขอเพียงทำให้เรามีความสุข
คุณอาจจะคิดว่าเด็กน้อยคนนี้ใจร้ายกับต้นแอ๊ปเปิ้ลมากๆ
แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เรา…ทำกันอยู่ในทุกวันนี้…มิใช่หรือ!

http://englishbydad.blogspot.com/2018/07/thai-and-english-version.html


วันแม่ปีนี้ ส่งมอบความรักด้วย กล่องเพลงสุนทราภรณ์ พร้อมโปรโมชั่น รับฟรี ซีดีเพลงย้อนยุคสุนทราภรณ์+ลูกกรุง 5 ชุด มูลค่า 900 บาท ฟรี และ ฟรีค่าส่ง เมื่อซื้อกับ Lazada ราคาพิเศษ เพียง 2,190 บาท จากราคาเต็ม 3,590 บาท!!!

  1. กล่องเพลงสุนทราภรณ์ 1,200  เพลง สุนทราภรณ์ต้นฉบับเกือบทั้งหมดอยู่ในกล่องนี้ มากที่สุดในประเทศไทย อาทิ เพลง ขอให้เหมือนเดิม, ยามรัก, ขวัญใจเจ้าทุย, พรหมลิขิต, สุขกันเถอะเรา, เริงลีลาศ, พรานล่อเนื้อ, วังน้ำวน, กระซิบสวาท, สวัสดีปีใหม่, เธอเท่านั้น, เสียแรงรักใคร่, ภูกระดึง, จำได้ไหม, ข้องจิต, กังหันต้องลม, ฯลฯ
  2. เล่นวิทยุได้ เป็นนาฬิกาปลุกได้ ลำโพงคู่ด้านหน้า เสียงดีจริง  พกพาสะดวก
  3. จะฟังเพลงอะไรก็ได้ เพราะมีช่องต่อ USB สำหรับต่อเพื่อเล่นไฟล์เพลงอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น .mp3 และ .wav เป็นต้น 
  4.  เล่นง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงกดปุ่ม Play หรือกดหมายเลขเพลง
  5.  ลำโพงเสียงดีจริง ด้วยระบบลำโพงคู่ ติดตั้งที่ด้านหน้าเครื่อง เสียงกังวาน ไพเราะ
  6.  ชาร์ตแบตเพียง 1 ชั่วโมง เล่นได้ยาวต่อเนื่องมากกว่า 12 ชั่วโมง   
  7.  ขนาดเครื่อง 6.3 x17.9 x12.4 cm.   
  8. ออกแบบสวยงามสไตล์วินเทจ เหมือนเครื่องเรือนชั้นดีประดับห้อง ผลิตโดยวัสดุคุณภาพสูง และทนทาน   
  9. เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงเพราะๆ การร้องคลอตามเพลง นอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ยังเป็นการบริหารสมอง ป้องกันอาการอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย
  10. ในกล่องประกอบด้วย ตัวเครื่อง, สมุดรายชื่อเพลง, คู่มือการใช้, รีโมทคอนโทรล, และแบตเตอรี่พร้อมสายชาร์จ
  11. บัตรรับประกันคุณภาพ อายุ 1 ปี นับจากวันที่ซื้อสินค้า ศูนย์ซ่อม Call Center 02-591-9444
  12. พัสดุส่งของบรรจุ ป้องกันการกระเทือนก่อนส่งถึงมือคุณ
  13. โปรโมชั่น รับฟรี ซีดีเพลงย้อนยุคสุนทราภรณ์+ลูกกรุง 5 ชุด มูลค่า 900 บาท ฟรี เมื่อซื้อกับ Lazada
  14. สามารถเก็บเงินปลายทาง

Thursday, July 12, 2018

21 เคล็ดลับเปลี่ยนทุกอุปสรรค แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตของคุณนี้ช่างสนุกและดี น่าหลงใหลเพียงใด!!!





เป็นคนแบบไหน ก็ดึงดูด คนแบบนั้นเข้ามา นั่นแหละคือ กฎแรงดึงดูด!!!


“นกชนิดเดียวกัน จะอยู่ในฝูงเดียวกัน
คนที่เสมอกัน จะถูกดึงดูดเข้ามาอยู่ใกล้กัน”
--------------
เราอยู่ในโลกของพลังงาน ทุกสิ่งทุกอย่าง(แม้แต่วัตถุที่เป็นของแข็ง) ดูเหมือนสงบนิ่ง แต่แท้จริงแล้วมันกำลังสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา หากส่องเข้าไปดูในระดับอะตอม นักวิทยาศาสตร์ได้พบความจริงข้อนี้ แล้วประกาศออกมาเป็นทฤษฎีควอนตัมฟิสิกส์ ซึ่งความจริงนั้น พระพุทธเจ้าทรงค้นพบเรื่องนี้มาเกือบสองพันหกร้อยปีแล้ว และตรัสไว้ผ่านทางหลักธรรมคำสอน ด้วยพุทธพจน์ที่ว่า ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง (อนิจจัง) ต้องเปลี่ยนแปลง (ทุกขัง) และไม่มีตัวตน (อนัตตา) สามสภาวะนี้เรียกรวมกันว่า “กฎไตรลักษณ์”

VDO 5 นาทีกับการทำความเข้าใจ "กฎแห่งแรงดึงดูด" ทันที - ครูรุ้ง

กฎข้อนี้ในบางส่วน นักจิตวิทยาก็ค้นพบ เขาจึงกล่าวว่า “จิต” เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง พลังงานจะอยู่ในรูปของคลื่นความถี่ ที่สั่นสะเทือนอยู่ตลอด ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่รับรู้และใช้ประโยชน์จากมันได้ เช่น คลื่นโทรศัพท์ คลื่นวิทยุ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น

ชีวิตทางกายภาพของมนุษย์ประกอบด้วยส่วนต่างๆ อยู่ ๒ ส่วน คือ

๑. ส่วนที่เป็นกายภาพ สามารถสัมผัสจับต้องได้ มองเห็นได้ เรียกว่า “กายเนื้อ” ภาษาธรรมะเรียกว่า “รูป”

๒. ส่วนที่เป็นพลังงาน สัมผัสถูกต้องไม่ได้ เรียกว่า “กายใน” เป็นพลังงานเรืองแสง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น กายในดังกล่าวนี้จะแทรกอยู่ในกายเนื้อ คนโบราณเรียกว่า “กายทิพย์” ทางพระเรียกว่า “นาม” ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงอธิบายละเอียดลึกซึ้งลงไปอีกว่า นามนั้นประกอบด้วย ความรู้สึก (เวทนา), ความจำ (สัญญา), ความคิด (สังขาร), การรับรู้ (วิญญาณ)

ข้อดีของสัจธรรมก็คือ เป็นกฎของธรรมชาติที่ให้ผลเป็นจริง อยู่เหนือกาลเวลา และนำมาปรับใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมในชีวิตประจำวัน เราต้องมาพบ มาทำงานร่วมกับคนคนนี้ ซึ่งอาจเป็นเจ้านาย ลูกน้อง แฟน คู่แค้น เพื่อนร่วมงาน หรือใครก็ตาม ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่ นั่นก็เพราะเรายังมี “กายใน” ที่เป็นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ในระดับเดียวกับเขา

“คนที่มีระดับพลังงานเดียวกัน
จะถูกดึงดูดเข้ามาหากัน”

เหมือนนกที่มีสายพันธุ์เดียวกัน ก็จะอยู่ในฝูงเดียวกัน บินไปไหนพวกมันก็ไปด้วยกัน บินกันไปเป็นฝูง เราจะไม่เคยเห็นอีกาบินร่วมไปกับหงส์ หรืออีแร้งบินไปกับนกอินทรี นั่นเพราะนกชนิดเดียวกัน มันจะอยู่ในฝูงเดียวกันเท่านั้น

ฉะนั้น ตราบใดที่พลังงานในตัวเรายังไม่เปลี่ยนระดับความถี่ที่สั่นสะเทือน เราก็จะต้องพบเจอบุคคลเหล่านี้อยู่ร่ำไป และวิธีการสลัดตนให้หลุดพ้นจากคนที่เราไม่ชอบนั้น ไม่ใช่การนินทา และก็ไม่ใช่การพยายามเปลี่ยนคนอื่น แต่เราจะต้องเปลี่ยนตัวเองจากภายในคือ “ระดับพลังงาน” ต้องยกมันให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นไป เหนือกว่าพลังงานของคนที่เราไม่ชอบ โดยเริ่มต้นจากความอยากเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
“ความรู้สึก” ถ้าเราหมั่นตรวจสอบความรู้สึก รู้จักฝึกควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ให้เป็นคนที่รู้สึกดีได้มากที่สุด ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจเมตตา ไม่จับกลุ่มนินทา เลิกเสพข่าวร้าย มีความสำนึกรู้คุณต่อทุกสรรพสิ่ง ไปวัด นั่งสมาธิ รักษาศีล ออกกำลังกายอยู่เสมอ ว่ายน้ำ ดูปะการัง อะไรก็ว่าไป

ในที่สุด เมื่อระดับพลังงานสูงพอ เราก็จะไม่มีทางพบเจอคนเหล่านั้นอีกเลย แต่จะเปลี่ยนไปเจอคนที่มีระดับพลังงานเดียวกันกับเรา ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นักจิตวิทยาสมัยใหม่บอกว่า เกิดขึ้นเพราะ “พลังจิตใต้สำนึก” ปลดปล่อยพลังงานสั่นสะเทือนออกไปโดยอัตโนมัติอยู่ตลอดเวลา แบบที่เราเองก็ไม่รู้ตัว พวกเขาเรียกมันว่า “กฎแห่งแรงดึงดูด”

ดังนั้น หากอยากเปลี่ยนโลก ต้องเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน โดยเริ่มต้นจาก “ความอยาก” “ความรู้” และ “ความรู้สึก” แล้วโลกรอบข้างเราก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สมดังคำสอนเปลี่ยนโลกที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

“การไม่ทำบาปทั้งปวง
การทำกุศลให้ถึงพร้อม
การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว
นี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย”

ทาน บอกระดับความมีใจโอบอ้อมอารี ศีล บอกพฤติกรรม กิริยาท่าทางที่แสดงออก สมาธิ บอกระดับความสุขสงบเย็น ปัญญา บอกระดับความรู้ ความเข้าใจต่อโลก และสรรพสิ่ง

ขอย้ำอีกสักครั้ง “คนที่เสมอกัน จะถูกดึงดูดเข้ามาอยู่ใกล้กัน” ตามระดับคุณธรรมที่เป็นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 193 มกราคม 2560 โดย ทาสโพธิญาณ)

หนังสือพูดได้ ซีรีส์คบบัณฑิตติดรถฟัง ตอน จักรวาลเข้าข้างคุณ

21 เคล็ดลับ ปรับทุก "โชคร้าย" ให้กลายเป็น "โชคดี" ของคุณ

Audio CD 2 แผ่น ราคาพิเศษ 750 บาท สั่งซื้อ!!!

จักรวาลนี้...รักคุณและอยู่ข้างคุณ! นี่เป็นสัจธรรม และความจริงของโลก...ที่ปราชญ์ มหาศาสดา และนักวิทยาศาสตร์อย่างไอน์สไตน์ ได้สอนเราไว้อย่างชัดเจน...ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ คอนเฟิร์มว่า "สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ คุณต้องตัดสินใจว่า...จักรวาลนี้ เป็นจักรวาลที่เป็นมิตร" คุณไม่เคยมีอะไรต้องกลัว...เพราะถ้าจักรวาล "เข้าข้างคุณ" แล้วจะต้องมีอะไรมาต้านทานคุณได้!

    ถ้าคุณรู้เคล็ดลับ 21 ข้อนี้ คุณจะสามารถเปลี่ยนทุกอุปสรรคให้กลายเป็น "ขั้นบันได" ให้คุณขึ้นถึงจุดที่สูงขึ้นกว่าเดิมทุกครั้ง นี่คือสาเหตุที่ชีวิตของ "บัณฑิต อึ้งรังษี" มีกราฟ "ขึ้นอย่างรวดเร็ว" ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่า...เขาไม่มีอุปสรรคในชีวิต แต่เขาเปลี่ยนทุกอุปสรรค...ให้เป็นประโยชน์สำหรับตัวเอง แล้วคุณจะรู้ว่า.. "ชีวิตของคุณนี้...ช่างสนุกและดี น่าหลงใหลมากมาย เพราะคุณมี" จักรวาล "เป็นเพื่อนคู่คิด อยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา" 

สื่อต่างประเทศเผยอานิสงส์สมาธิ เปล่งอานุภาพ จากถ้ำหลวง!!!





สื่อต่างประเทศเผยอานิสงส์สมาธิ เปล่งอานุภาพ



Greg Palkot reports on the rescue efforts as more rain is expected. FOX News Channel (FNC) is a 24-hour all-encompassing news service dedicated to delivering breaking news as well as political and business news. The number one network in cable, FNC has been the most watched television news channel for more than 16 years and according to a Suffolk University/USA Today poll, is the most trusted television news source in the country. Owned by 21st Century Fox, FNC is available in more than 90 million homes and dominates the cable news landscape, routinely notching the top ten programs in the genre.



โค้ชเอก'ฮีโร่ผู้สร้างแรงบันดาลใจ'
ให้คนค่อนโลกหันมาสนใจ"สมาธิ"
เขาคือประทีปดวงหนึ่งของโลก

#สื่อน้ำดีสีขาวอยู่ที่"ออสเตรเลีย"
ตีข่าวทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำ13ชีวิต รอดชีวิตเพราะโค้ชเอกพาทำสมาธิ


สติ สมาธิ นำพาให้รอดจากความคลุ้มคลั่งในการติดอยู่
ในถ้ำหลวง เกือบ 10 วัน ของ เด็กๆ 13 คน

วันนี้คนค่อนโลกหันมาสนใจสมาธิ
พรุ่งนี้คนค่อนโลกจะรู้จักสมาธิ
มะรืนนี้คนค่อนโลกจะพบความสุข
จากการทำสมาธิ
วันถัดไปคนค่อนโลกจะรู้จักบุญ
ที่เกิดจากการทำสมาธิ

อนาคตเมื่อคนค่อนโลกได้พบกับ
ความสุขภายในที่อยู่ในใจตนแล้ว
คนค่อนโลกจะมีเมตตาธรรม
ไม่ทำร้ายและไม่เบียดเบียนกัน

เหตุที่คนทำร้ายเบียดเบียนกัน
ถ้าพิจารณาด้วยสติปัญญาให้ถี่ถ้วน
จะพบว่าแท้จริงแล้วมิใช่อื่นใดเลย
มีสาเหตุมาจากสิ่งเดียวเท่านั้น
คือเพราะการแย่งชิงความสุขกัน

คนที่พบความสุขภายในแล้ว
จะไม่เอาเปรียบหรือเบียดเบียนใคร
มีแต่อยากอนุเคราะห์โลกนี้
ให้พบกับความสุขภายในด้วยกัน

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในถ้ำหลวง
เป็นปรากฏการณ์ที่เสมือน
ปลุกโลกให้ตื่นจากความหลับใหล
มามีความเห็นใจเสียสละสามัคคี

รู้จักสมาธิและความสุขจากเมตตา
ที่ได้ช่วยชีวิตอื่นให้ปลอดภัย
โดยไม่ปรารถนาสิ่งตอบแทนใดๆ

การเสียสละด้วยใจบริสุทธิ์เช่นนี้
ความสุขมันละเอียดอ่อนประณีต
น่าเป็นเจ้าของมากมายเพียงใด

สิ่งทั้งหมดที่ได้กล่าวมา
คงสามารถตอบคำถามได้ระดับหนึ่ง
ทำไมหลายคนจึงยกย่องโค้ชเอก
เป็นฮีโร่ เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ
และเป็น"ทูตแห่งสันติภาพ"
ก็เพราะโลกยังขาดคนแบบนี้งัย!!
เขาเป็นในสิ่งที่โลกกำลังแสวงหา

เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางใจ
ที่พิสูจน์ให้โลกได้เห็นกับตาโดยที่
ไม่ต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์
ใดๆมาวัดประโยชน์ของสมาธิ
แม้จะเป็นด้วยความไม่ตั้งใจก็ตาม

ณ นาทีนี้คงไม่มากไปใช่ไหม?
ถ้าจะเปรียบโค้ชเอกเสมือนเป็น
"ดวงประทีปดวงหนึ่งของโลก"
#เครดิต FWD Line

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤

ราคาพิเศษ 160.55 บาท สั่งซื้อ!

สมาธิวันละ 5 นาที ชนะทุกข์ พิชิตกรรม

วิธีปฏิบัติสมาธิเพื่อหลุดพ้นจากความทุกข์ เวรกรรม และสังสารวัฏ
ชีวิตที่ตกต่ำเพราะเต็มไปด้วยอุปสรรค ปัญหา ความผิดหวัง โรคภัยไข้เจ็บ เคราะห์กรรมต่างๆ สิ่งเหล่านี้ท่านเคยถามตัวเองหรือไม่ ว่าแท้จริงแล้วเกิดขึ้นจากอะไร แล้วทำไมชีวิตของท่านถึงต้องเผชิญกับสิ่งที่นำมาซึ่งทุกข์เช่นนี้ หนังสือเล่มนี้จะทำให้ท่านรู้จักกรรมอย่างถ่องแท้ว่ากรรมเกิดขึ้นได้อย่างไร และท่านจะพ้นจากความทุกข์และวิบากกรรมทั้งจากในอดีตและปัจจุบันด้วยสมาธิได้อย่างไร