Thursday, June 28, 2018

สภาพภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ภาพจริง น่ากลัวขนาดไหน ดูกัน!!!

ประวัติถ้ำหลวง กับเด็กนักบอลที่หายไป

สภาพภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ภาพจริง คลิปจริง ที่ช่อง 7 เข้าไปถ่ายไว้ เมื่อเดือน มี.ค. 61
น่ากลัวขนาดไหน ดูกัน!!!
ออกอากาศเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2561
ข้อมูลวันที่ 26 มิ.ย. 2561




ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
.
ขุนคีรีนี่หรือคือซากรัก
หญิงอกหักธิดาสาวเจ้าเชียงรุ้ง
รักวิบัติจึงพลัดพรากหนีจากกรุง
นางหมายมุ่งมาถิ่นดินแดนไทย....อ่านต่อ http://sports4healthy.blogspot.com/2018/06/blog-post_26.html?m=1
ขอขมา สิ่งศักดิ์สิทธิ แม่เจ้า พญานาคา

หนีทุกข์ไม่พ้น คิดแบบสนุกๆ อยู่กับทุกข์ให้ชิน!!!

หนีทุกข์ไม่พ้น อย่าทนกับทุกข์ คิดแบบสนุกๆ อยู่กับทุกข์ให้ชิน - พระศักดา สุนฺทโร

หนีทุกข์ไม่พ้น อย่าทนกับทุกข์ คิดแบบสนุกๆ อยู่กับทุกข์ให้ชิน - พระศักดา สุนฺทโร ขออนุญาตเจ้าของคลิป พลังธรรม และ พระ ศักดา คลิปเผยแพร่เป็นธรรมทาน สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง ฯ

ครั้งหนึ่งเคยมีความคิดในหมู่นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำว่า มนุษย์สามารถเอาชนะเชื้อโรคทั้งหลายได้ สักวันหนึ่งจะไม่มีใครล้มป่วยเพราะโรคติดเชื้ออีกต่อไป แต่มาถึงทุกวันนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า นั่นเป็นความฝัน เชื้อโรคจะต้องอยู่คู่กับมนุษย์เราไปตลอดกาล มิใช่อยู่รอบตัวเราเท่านั้น หากยังอยู่ในตัวเราด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อป้องกันมิให้ล้มป่วยก็คือ การสร้างภูมิคุ้มกันโรค
.
ภูมิคุ้มกันโรคเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็มาจากการที่ร่างกายของเราได้รับเชื้อโรคจากภายนอก หากเป็นเชื้อโรคที่ไม่แรงถึงกับทำให้ตาย ร่างกายเราจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคนั้น ๆ ขึ้นมา ทำให้ไม่ป่วยหากเชื้อโรคนั้นเข้ามาในร่างกายอีก การฉีดวัคซีนมิใช่อะไรอื่น หากเป็นการฉีดเชื้อโรคอ่อน ๆ หรือเชื้อที่ตายแล้ว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายของเรานั่นเอง
.
เชื้อโรคฉันใด ความทุกข์ก็ฉันนั้น มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราที่ไม่อาจหนีพ้นได้ ไม่ว่าเราจะมีเทคโนโลยีล้ำหน้า มีความมั่งคั่งและอำนาจยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ต้องเจอความทุกข์อยู่นั่นเอง ดังนั้นแทนที่จะคิดหนีความทุกข์ (ซึ่งเป็นไปไม่ได้) เราจึงควรหาทางรับมือกับความทุกข์ วิธีหนึ่งก็คือ สร้างภูมิคุ้มกันความทุกข์ขึ้นมาในจิตใจ
.
ชีวิตที่มีแต่ความสะดวกสบาย ได้ทุกอย่างที่ปรารถนา ไม่รู้จักความผิดหวังนั้น ดูเหมือนเป็นชีวิตที่น่าอิจฉา แต่แท้จริงเป็นชีวิตที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง เพราะขาดภูมิคุ้มกันความทุกข์ หากวันใดพบกับความผิดหวังหนัก ๆ ก็อาจเสียศูนย์ หรือถึงกับฆ่าตัวตาย เคยมีมาแล้วที่คนเรียนดีตั้งแต่เล็กจนโตแต่สุดท้ายกลับฆ่าตัวตายเพราะทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกไม่สำเร็จ หรือลูกที่พ่อแม่เลี้ยงดูอย่างประคบประหงมกลับฆ่าตัวตายเมื่ออกหัก ความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเขาเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องร้ายแรงหรือคอขาดบาดตาย แต่เป็นเพราะไม่มีภูมิคุ้มกันความทุกข์มาก่อน จึงโดนความทุกข์ท่วมทับจนไม่เห็นทางออกอย่างอื่นนอกจากความตาย
.
ดังนั้นใครที่ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ มีชีวิตราบรื่นเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ จึงไม่ควรด่วนดีใจว่าเป็นคนมีโชค เพราะนั่นอาจเป็นเคราะห์ที่แฝงมาในรูปของโชคก็ได้ ส่วนคนที่เจออุปสรรคและความยากลำบากเป็นนิจ ก็อย่าน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา ลองสำรวจให้ดีก็จะพบว่าความทุกข์ให้สิ่งดี ๆ แก่คุณ อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณอดทนมากขึ้น และไม่กลัวความยากลำบาก

ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล

-------------------------------------------------------------------------------------------

วิธีชนะทุกข์และสร้างสุข : How to Stop Worrying and Start Living

ปัญหาของการเอาชนะทุกข์นั้น ใกล้ตัวเหมือนแลเห็นรำไรอยู่ที่ปลายจมูกของเราเอง...

Wednesday, June 27, 2018

บทกวี "คอยผู้เมตตา"

ບົດກະວີ:

              "ຄອຍຜູ້ເມດຕາ"

ແມ່ນວ່າເວັນເດັ່ນແຈ້ງ  .  .  ແສງສ່ອງລົງໂລກາ
ຮອບກາຍາຍັງມົວ  .  .  .  .  ມືດໝອງໝາງໄໝ້
ໄສ້ຄົດງໍໂງໂຄ້ງ  .  .  .  .  .   ຄົງຫິວໂຫຍອ່າວ
ໜາວກໍໜາວໜ່ວງນ້າວ  .  ແສນເສົ້າໂສກກະສັນ ຫຼາຍເດ

ຫຼາຍວັນວົນຢູ່ຖໍ້າ  .   .  .  .  ທຳທ່າຄອຍທາງ
ວາງແວວຕາແລດູ  .  .  .  .  ເດັ່ນປະກາຍຫວນຮູ້
ເຕັມແຕ່ຄູຄອງນໍ້າ  .  .  .  .  ລຳກະແສນອງນັ່ນ
ໄຫຼໂຮມກັນກີດກັ້ນ  .  .  .  . ທາງເຄີຍເດີນດ່ວນດັ້ນ
  .  .  .  .  .  .  .  .  .  .  .  . ສັນໃດໄດ້ປ່ຽນໄປ

ຫຼາຍວັນໄດ້ຫ່າງບ້ານ  .  .  . ຖານຖິ່ນຄາເມ
ຄິດຫຼາຍເດຄິດຮອດເຮືອນ  . ບ່ອນເດີມດາດັ້ງ
ທັງອາວອາລຸງປ້າ  .  .  .  .  . ຄະນານາມພໍ່ແມ່
ໄດ້ແຕ່ແລຫຼໍ່ານໍ້າ  .  .  .  .  .  ໃນຖໍ້າຊິຄ່ອຍຄາຍ

ແຮງກາຍຊິເສື່ອມສິ້ນ  .  .  .  ສະລາຍຫຼ່ອຍລາໄລ
ຫຼາຍວັນຄົງໂຫຍຫິວ  .  .  .  ກີ່ວລົງລຳໄສ້
ໄດ້ແຕ່ທົນທານໄວ້  .  .  .  .   ໃຜມາຊວ້ານຊ່ອຍ
ຄອຍຜົນບຸນຍົກຍູ້  .  .  .  .  . ຍໍອູ້ມໂອບອອມ

ພ້ອມວອນອິນເທບໄທ້  .  .  .  ກໍ້າຝ່າຍສວງສະຫວັນ
ຊ່ວຍບັນດານໃຈຄົນ  .  .  .  .  ດ່ວຍມາຊູຊວ້ານ
ຊຸມລູກຫຼານເຫຼັນນ້ອຍ  .  .  . ຜູ້ກຳພອຍພາກຖິ່ນ
ພວມຮັບກຳກິ່ນຮ້າຍ  .  .  .  .  ໃຫ້ພໍໄດ້ປອດໄພ ສາທຸເດີ🙏🙏🙏

ປະພັນໂດຍ: ຫຼານນາງລາວສາວເມີງວັງ
                  Oula Phommasoukha

ແຕ່ງກະວີບົດນີ້ເພື່ອສົ່ງກຳລັງໃຈໃຫ້ແກາເດັກນ້ອຍໄທຜູ້ປະສົບໄພນໍ້າຖ້ວມ ໃນຖໍ້າຫຼວງ ຫຸບເຂົານາງນອນ

บทกวี "คอยผู้เมตตา"

แม่นว่าเว็น*เด่นแจ้ง
แสงส่องลงโลกา
รอบกายายังมัว
มืดหมองหมางไหม้
ไส้คดงอโงโค้ง
คงหิวโหยอ่าว
หนาวก็หนาวหน่วงน้าว
แสนเศร้าโศกกะศัลย์  หลายเด้

(เว็น = กลางวัน)

หลายวันวนอยู่ถ้ำ
ทำท่าคอยทาง
วางแววตาแลดู
เด่นประกายหวลฮู้
เต็มแต่คูหนองน้ำ
ลำกระแสนองนั่น
ไหลโฮมกันกีดกั้น
ทางเคยเดินด่วนดั้น
สันใดได้เปลี่ยนไป

หลายวันได้ห่วงบ้าน
ฐานถิ่นคาเม*
คิดหลายเด้คิดฮอดเฮือน*
บ่อน*เดิมดาดั้ง
ทั้งอาวอาลุงป้า
คณานามพ่อแม่
ได้แต่แลหล่ำน้ำ
ในถ้ำสิค่อยคลาย
(คาเม =  คาม เฮือน = บ้าน บ่อน =  ที่)

ขอขอบคุณ http://2travel4.blogspot.com/2018/06/blog-post_56.html

นิทานธรรมะ เรื่อง หนอนท้าสู้กับช้าง



คูถปาณกชาดก หนอนท้าสู้กับช้าง
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ปรารภภิกษุรูปหนึ่ง ผู้ปราบความจองหองของชายด้วน ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ บ้านพักริมทางปลายแดนแห่งหนึ่งระหว่างอังครัฐกับมคธรัฐ จะมีพ่อค้าทั้งสองเมืองแวะมาพักร้อนก่อนเดินทางไปค้าขายต่ออยู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งมีพ่อค้ากลุ่มหนึ่งแวะมาพักเช่นเคย แต่ครั้งนี้ได้นำสุรามาดื่มด้วยพักค้างคืนแล้วจึงออกเดินทางในตอนเช้ามืด
          เมื่อพวกพ่อค้าไปแล้วไม่นาน มีหนอนกินอุจจาระตัวหนึ่งได้กลิ่นอุจจาระจึงมาที่นั้น เห็นสุราที่เขาทิ้งไว้ตรงนั้น มันก็กินด้วยความหิวกระหายแล้วเกิดอาการเมาสุรา ไต่ขึ้นไปบนกองอุจจาระๆ ก็ยุบลง มันจึงร้องขึ้นด้วยความลำพองใจว่า
          "อะฮ้า ในโลกนี้ไม่มีใครใหญ่เกินเรา แม้แต่แผ่นดินก็ยังทนทานน้ำหนักเราไม่ได้"
ขณะนั้นเองได้มีช้างตกมันตัวหนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นพอดี พอได้กลิ่นอุจจาระจึงปลีกตัวเดินห่างออกไป เจ้าหนอนเห็นช้างเดินตรงมาถึงแล้วก็หลบไปทางอื่นก็ยิ่งลำพองใจคิดว่าช้างกลัวตนเอง จึงร้องเรียกช้างขึ้นว่า
          "ท่านเป็นช้างผู้กล้าหาญมิใช่เหรอ ท่านอย่างพึ่งหนีไป กลับมาสู้กันก่อน เราคือผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่นี้"
          ช้างพอได้ยินเสียงหนอนเรียกท่าสู้ด้วย จึงเดินกลับไปหาพร้อมตวาดขึ้นว่า ...
          "เจ้าหนอนตัวเหม็น เราไม่จำเป็นต้องออกแรงฆ่าเจ้าด้วยเท้าด้วยงาดอก เพียงแค่ขี้ของเราจึงจะคู่ควร"
ว่าแล้วก็ถ่ายอุจจาระก้อนโตตกลงไปทับหนอนตายคาที่พร้อมกับปัสสาวะรดแล้วก็แผดเสียงร้องเข้าป่าไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :คนใจใหญ่หยิ่งผยอง หลงตัวเอง มักนำความฉิบหายมาให้มากกว่าผลดี




ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม (เสนาซุย)

Monday, June 25, 2018

เปิดคำทำนายในอดีต ชาติกำเนิดของคนเกิดทั้ง 7 วัน คุณจุติมาจากที่ใด!!

แม่นจนขนลุก!! เปิดคำทำนายในอดีต ชาติกำเนิดของคนเกิดทั้ง 7 วัน คุณจุติมาจากที่ใด!!


------------------------------------------------------------------

สนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศโดย
ทัวร์ต่างประเทศราคาถูก
2TRAVEL4.BLOGSPOT.COM
เลือกจอง ทัวร์ต่างประเทศ ยอดนิยม กว่า 30 เส้นทางทั่วโลก Package Tour Online Booking

ราศีมิถุน ปี 61 แม่นจนขนลุก!!!

แม่นจนขนลุก!!ทำนายราศีมิถุน ปี 61 จัดเต็ม!!รีบเช็คด่วน



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศโดย
ทัวร์ต่างประเทศราคาถูก
2TRAVEL4.BLOGSPOT.COM
เลือกจอง ทัวร์ต่างประเทศ ยอดนิยม กว่า 30 เส้นทางทั่วโลก Package Tour Online Booking…

Wednesday, June 20, 2018

การอุทิศบุญที่ถูกต้องและได้ผลโดยหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง (พระราชพรหมยาน)


การอุทิศส่วนกุศลให้คนตาย
“..การอุทิศส่วนกุศลในพระพุทธศาสนา ไม่ต้องใช้นํ้าการที่พระเจ้าพิมพิสาร เป็นองค์แรกที่อุทิศส่วนกุศลโดยใช้นํ้า ก็เพราะท่านเพิ่งพบพระพุทธเจ้า เนื่องจากศาสนาพราหมณ์เขาถือว่า ถ้าจะให้อะไรกับใคร ต้องให้คนนั้นแบมือแล้วเอานํ้าราดลงไป ท่านยังชินอยู่กับประเพณีของพราหมณ์ แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ห้าม เพราะเห็นว่าใจท่านตั้งตรงเวลาอุทิศส่วนกุศล
เรื่องการกรวดนํ้านี้ สมัยเมื่ออาตมาบวชได้วันที่สอง ขณะเจริญพระกรรมฐานได้มีผีตัวผอมก๋องเข้ามานั่งอยู่ข้างหน้า อาตมาก็สวด “อิมินา ปุญญกัมเมนะ อุปัชฌายา” หมายถึงอุปัชฌาย์ แต่อุปัชฌาย์ก็ยังไม่ตาย “คุณุตตรา อาจาริยู” ให้ คู่สวดอีก คู่สวดก็ยังไม่ตาย ว่าเรื่อยไปยังไม่ทันจะจบเหลืออีกตั้งครึ่งบท เห็นเดินมา ๒ คนเอาโซ่คล้องคอลากผีที่นั่งอยู่ข้างหน้าไปเลย ผลปรากฏว่ายังไม่ได้ให้ผีเลย
พอตอนเช้าไปบิณฑบาตกลับมาฉันข้าว พอฉันเสร็จล้างบาตรเช็ดเรียบร้อย ปกติฉันเสร็จหลวงพ่อปานท่านจะยถาฯ แต่วันนี้ท่านไม่ยถาฯ ท่านนั่งเฉยมองหน้าถามว่า
“ไงพ่อคุณ พ่ออิมินาคล่อง สวดอย่างนั้นผีจะได้กินเหรอ”
ท่านให้แปลอิมินาแปลว่าอย่างไรบ้าง อุปัชฌาย์ก็ยังไม่ตาย คู่สวดญัตติคือท่านก็ยังไม่ตายมาให้ท่าน ผีที่อยู่ข้างหน้าทำไมไม่ให้
ท่านก็บอกว่า “ทีหลังผีมาละก็ ผีมันอยู่นานไม่ได้ บางทีก็หลบหน้าเขามานิดหนึ่ง ถ้ามานั่งใกล้เรา ทุกขเวทนาอย่างเปรตนี่ ไฟไหม้ทั้งตัว หอกดาบฟัน เวลาที่เราเจริญพระกรรมฐานอยู่ บุญของเรานี่สามารถจะช่วยให้เขามีความสุขได้ เพราะถ้ามานั่งข้างหน้าใกล้ๆเรานี่ ไฟจะดับ หอกดาบจะหลุดไป แต่ว่าจะอยู่นานไม่ได้ ต้องพูดให้เร็วเพราะเขาจะต้องไปรับโทษ เวลาอุทิศส่วนกุศลให้ว่าเป็นภาษาไทยชัดๆ และให้สั้นที่สุด”
ให้บอกว่า “บุญใดที่ฉันบำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผลบุญทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์ ความสุขแก่ฉันเพียงใด ขอเธอจงโมทนาผลบุญนั้นและรับผลเช่นเดียวกับฉันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
วันหลังผีตัวใหม่มา ตัวก่อนที่ถูกลากคอไปมาไม่ได้แล้ว ผีตัวใหม่ผอมก๋องเอาทนายมาด้วย ยืนอยู่ข้างหลังนางฟ้าที่มีทรวดทรงสวย เป็นเทวดาใหญ่มากบอกว่า
“ท่านนั่งอยู่นี่ไงล่ะ จะให้ท่านช่วยอะไรก็บอกท่านสิ”
ผีผอมก๋องพูดไม่ออกเพราะกรรมมันปิดปาก อาตมานึกขึ้นมาได้ ถ้าขืนให้อยู่นานเดี๋ยวโซ่คล้องคอลากไปอีก จึงอุทิศส่วนกุศลให้ตามที่หลวงพ่อปานสอน จึงบอกว่า
ตั้งใจโมทนาตาม ทีหลังมา ข้าไม่ให้พูดแล้วข้าให้เลย
พอว่าจบผีผอมก๋องก็ก้มลงกราบ กราบไปครั้งแรกลุกขึ้นมาก็ผอมตามเดิม กราบครั้งที่สองลุกขึ้นมาก็ผอมตามเดิม “ พอกราบครั้งที่สามลุกขึ้นมา คราวนี้ชฎาแพรวพราวเช้งวับไปเลย
การได้รับส่วนกุศลนี้ ขึ้นอยู่กับท่านนั้นมีโอกาสโมทนา ท่านก็ได้รับ แต่ถ้าท่านนั้นไม่มีโอกาสโมทนาก็ไม่ได้รับ เปรียบเหมือนเราเอาสิ่งของไปให้ แต่ผู้รับเขาไม่รับ เขาก็จะไม่ได้ของ ถ้าพวกเขาอยู่ในนรก ไฟไหม้ทั้งวัน ถูกสรรพาวุธสับฟันทั้งวัน ถ้าเราเอาขนมไปให้กิน เขาก็ไม่มีโอกาสจะได้
ปรทัตตูปชีวีเปรตเป็นเปรตระดับที่ ๑๒ แบ่งเป็น ๒ พวกคือ พวกที่มีกรรมบางอยู่ข้างหน้า เราอุทิศให้แผ่กระจายเขาโมทนาได้
….แต่พวกที่มีกรรมหนาอยู่ข้างหลัง ให้แผ่กระจายนี่เขาโมทนาไม่ได้ ถึงแม้จะมีสิทธิ์โมทนาก็ตาม เขาก็ไม่มีโอกาส พวกปรทัตตูปชีวีเปรตมายืนอยู่นานไม่ได้ ส่วนสัมภเวสีก็มีความหิวแต่อยู่นานได้ จึงต้องให้เจาะจงเฉพาะตรง ถ้าไม่ให้ตรงเฉพาะก็รับไม่ได้เพราะกรรมหนัก ฉะนั้นการอุทิศส่วนกุศล “ เวลาจะให้ ให้ว่าเป็นภาษาไทยให้เรารู้เรื่องและให้สั้นที่สุด”
การอุทิศส่วนกุศลแก่บุคคลต่างๆ ที่ตายไปแล้ว
ถ้านึกได้ออกชื่อเขาก็ดี เพราะถ้ากรรมหนาอยู่นิด ถ้าออกชื่อเจาะจงเขาก็ได้รับเลย ถ้านึกไม่ออกก็ว่ารวมๆ“ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี” ถ้า ขืนไปนั่งไล่ชื่อน่ากลัวจะไม่หมด มีอยู่คราวหนึ่งนานมาแล้วไปเทศน์ด้วยกัน ๓ องค์ บังเอิญมีอารมณ์คล้ายคลึงกัน วันนั้นทายกนำอุทิศส่วนกุศลออกชื่อคนตายกับบรรดาญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว ปรากฏว่าบรรดาผีทั้งหลายก็เข้ามาเป็นหมื่นล้อมรอบศาลา คนที่เป็นญาติก็โมทนาแล้วผิวพรรณดีขึ้น พวกที่มิใช่ญาติก็เดินร้องไห้กลับไป ตอนท้ายมีคนถามถึงการอุทิศส่วนกุศลว่าทำอย่างไร
พระองค์หนึ่งท่านเลยบอกว่า “ญาติโยมที่นำอุทิศส่วนกุศล อย่าให้ใจแคบเกินไปนัก อย่าลืมว่าการทำบุญแต่ละคราว พวกปรทัตตูปชีวีเปรตก็ดี พวกสัมภเวสีก็ดี จะมายืนล้อมรอบคอยโมทนา แต่ถ้าเราให้แก่ญาติ ญาติก็จะได้ บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ญาติก็จะไม่ได้ ฉะนั้นควรจะให้ทั้งหมดทั้งญาติและไม่ใช่ญาติ
และตอนที่พระให้พร เจ้าภาพและทุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว มีการถวายสังฆทานก็ดี การเจริญพระกรรมฐานก็ดี ควรตั้งจิตอธิษฐานตามความประสงค์ การตั้งจิตอธิษฐานเรียกว่า “อธิษฐานบารมี” ถ้าท่านตั้งใจเพื่อพระนิพพานก็ต้องอธิษฐานเผื่อไว้ โดยอธิษฐานว่า “ขอผลบุญทั้งหมดนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ แต่ถ้าหากข้าพเจ้ายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด จะไปเกิดใหม่ในชาติใดก็ตาม ขอคำว่า “ไม่มี” จงอย่าปรากฏแก่ข้าพเจ้า” ถ้าเราต้องการอะไรให้มันมีทุกอย่าง จะไม่รวยมากก็ช่าง เท่านี้ก็พอแล้ว การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปีๆ บุญก็ยังมีอยู่ ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปีก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้วเดี๋ยวเดียวบุญหายไป ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าทำบุญแล้วไม่ได้อุทิศส่วนกุศล ผู้ทำเป็นผู้ได้บุญเต็มที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ ถ้าเราไม่ให้เราก็กินคนเดียว ทีนี้ถ้าเราให้เขาบุญของเราก็ไม่หมด ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม
อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายมาขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ท่านรับบาตร
ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า
สมมติว่าโยมมีคบและก็มีไฟด้วย แต่คนอื่นเขามีแต่คบไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่างก็มาขอต่อไฟที่คบของโยม แล้วคบของทุกคนก็สว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของโยมจะยุบไปไหม
ท่านพระอนุรุทธก็ตอบว่า “ไม่ยุบ”
แล้วพระปัจเจกพุทธเจ้าท่านก็บอกว่า
การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน เราให้เขา เขาก็โมทนา แต่บุญของเราก็ยังอยู่เต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้หายไป
ท่านพระยายมราชได้มาบอกอาตมาเรื่องการอุทิศส่วนกุศลให้คนตาย เมื่อวันปวารณาออกพรรษาปีพ.ศ. ๒๕๓๑ ว่า
“ที่สำนักท่านพระยายมราชจะหยุดทำงานเรียกว่า “หยุดนรกการ ๓ วัน” คือ วันออกพรรษา วันปวารณา และวันรุ่งขึ้น รวมเป็น ๓ วัน วันมหาปวารณาเป็นวันสำคัญท่านไม่สอบสวน พวกที่คอยการสอบสวน ตามปกติเขามีอิสระอยู่แล้วจะไปไหนก็ได้ แต่ถึงเวลาสอบสวนก็จะมาเองเพราะกฏของกรรมบังคับ คนที่มาคอยอยู่ที่นี่จะมีโอกาสพ้นนรกหรือไม่ก็ยังไม่แน่ ถ้าบรรดาญาติฉลาด หมายถึงทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลเจาะจงให้ตรงเฉพาะคนเดียว โดยเอ่ยชื่อ นามสกุล อย่าให้คนอื่น เพราะเวลานั้นยังเป็นเวลาปลอดอยู่ มีสภาพคล้ายสัมภเวสี”
อาตมาจึงถามว่า “ทำบุญอะไร พวกนี้จึงจะไปสวรรค์ชั้นสูงและมีความสุขมาก
ท่านตอบว่า “แดนใดที่ไม่มีบุญทำแล้วก็ไม่ได้รับเหมือนกัน หมายความว่าพระสงฆ์ที่เราไปทำบุญนั้น เป็นพระแค่ศีรษะกับห่มผ้าเหลือง ไม่ปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญาให้ครบถ้วนเรียกว่า “สมมติสงฆ์”
อย่างนี้ทำไปเท่าไรก็ไม่มีผล อุทิศส่วนกุศลให้คนตายเขาก็ไม่ได้รับ ถ้าทำบุญในเขตที่มีบุญน้อย ผู้รับก็มีอานิสงส์น้อยมีความสุขน้อย ทำบุญในเขตที่มีอานิสงส์ใหญ่ ผู้รับก็มีอานิสงส์มากได้รับผลบุญมากก็มีความสุขมาก และการสร้างบุญเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ขึ้นอยู่กับสร้างดีก็ได้บุญ ถ้าสร้างไม่ดีก็ได้บาป หมายถึงก่อนจะทำบุญก็กินเหล้าก่อน พอพระกลับก็กินเหล้ากันอีก แต่ถ้าหากตั้งใจทำบุญโดยมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีบาปมีแต่บุญ อย่างนี้ผู้สร้างบุญก็ได้บุญเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ คือบุญนี่จะต้องได้แก่ผู้สร้างบุญก่อน แล้วผู้สร้างจึงจะอุทิศส่วนกุศลให้คนอื่นได้
ท่านจึงบอกว่า “สังฆทาน ดีที่สุด” โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ท่านจะช่วยได้จริงๆ ต้องเฉพาะคนที่ไปคอยการสอบสวนที่สำนักท่านเท่านั้น อย่างสัมภเวสี เปรต อสุรกาย ไม่ผ่านท่าน ท่านช่วยไม่ได้ และคนที่ตายแล้วลงนรกทันที ท่านก็ช่วยไม่ได้เพราะไม่ได้ผ่านสำนักท่าน
อาตมาจึงถามท่านว่า “ทำอย่างไรความแน่นอนจึงจะปรากฏ ท่านจึงจะช่วยได้”
ท่านก็เลยบอกว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ลูกหลานอาตมาคือลูกหลานของผม”
ให้บอกลูกหลานว่า “เวลาทำบุญเสร็จแล้วอุทิศส่วนกุศลให้คนตาย”
ถ้ายังไม่มั่นใจให้บอกท่านว่า
ถ้าบุคคลนั้นยังไม่มีโอกาสโมทนาเพียงใด ขอท่านพระยายมราชเป็นพยานด้วย หากว่าพบเธอผู้นั้นเมื่อใด ขอให้บอกเธอโมทนาเมื่อนั้น
เพราะ ไม่แน่นัก เนื่องจากขณะที่มีชีวิตอยู่คนเราทำทั้งบุญทั้งบาป เวลาตายไปแล้ว ถ้าไปอยู่ที่สำนักท่านพระยายามราช บางทีกรรมบางอย่างมันปิดปาก เวลาถามถึงเรื่องบุญทำให้นึกไม่ออกตอบไม่ได้ หากว่าท่านถามถึง ๓ ครั้งยังนึกไม่ออกอีก ก็ต้องปล่อยให้ลงนรกไป แต่ถ้าเวลาอุทิศส่วนกุศลขอให้ท่านเป็นพยาน เพียงแค่นี้
พอโผล่หน้าเข้าไปท่านก็จะประกาศว่า
ที่เคยขอให้ท่านเป็นสักขีพยาน และท่านก็จะประกาศกุศลนั้นบอกให้โมทนา ก็จะไปสวรรค์เลยโดยไม่ต้องมีการสอบสวน..
************************************
คำอุทิศส่วนกุศล“อิทัง ปุญญะผะลัง” ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานบทอุทิศส่วนกุศลท่อนแรกนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หลวงปู่โตท่านมาบอก และบทอุทิศส่วนกุศลอีก ๓ ท่อน ท่านพระยายมราชท่านมาบอก มีดังนี้ท่อนที่สองและ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิดท่อนที่สามและ ขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิดท่อนที่สี่ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด.
พระคาถาแผ่เมตตาไปทั่ว 3 โลก
นโม พุทธสิกขีพระพุทธเจ้า
นโม สรรพพุทธานัง
นโม สรรพธัมมานัง
นโม สรรพสังฆานัง
นโม อิติ อิติ โพธิสัตว์
โอม ฉัพพรรณรังสีพระพุทธเจ้า
โอม ท่านท้าวจาตุรมหาพรหม
โอม ท่านท้าวพยายมราช
โอม ท่านท้าวสักกะเทวราช
โอม ท่านท้าวจาตุรมหาราช
ลูกขออุทิศส่วนกุศลด้วย อิทัง ปุญญะพะลัง
ผลบุญใดที่ลูกได้สั่งสมมารวมทั้งสวดพระนามพระผู้มีพระภาคเจ้า
ลูกขอแผ่ส่วนกุศลไปกับฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการขององค์สมเด็จพระพิชิตมารศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
ขอได้โปรดดลบันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งสามโลก เจ้ากรรมนายเวร และญาติมิตร มีความสุขสำเร็จในชีวิต ได้หลุดพ้นจากวัฎสงสาร โดยสิ้นเชิง ด้วยพระบารมีมิอาจประมาณ ลูกขอน้อมนอบนมัสการด้วยจิตใจ ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก เจ้ากรรมนายเวรญาติมิตรและจิตลูกสว่างสะอาดสดใส หลุดพ้นไซร้สู่บ้านพระนิพพานพร้อมด้วยบริวารทุกท่านเทอญ สัมปะติจฉามิ สัมปะจิตฉามิ นิพพานสุขัง
อิทัง ปุญญะผะลัง” ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าและครอบครัว ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานและ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
และ ขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด.
การทำทานไม่เสียเงิน ที่หนุนดวงเราให้ได้งาน ได้บ้าน ได้รถ ได้ทุกอย่าง
บางท่าน คิดว่าการทำบุญ ต้องเสียเงินซื้อของไปถวายพระเท่านั้น หรือว่าการใส่บาตร ซึ่งบางท่านอาจจะทำได้ยาก บางท่านไม่มีเวลา บางท่านไม่มีปัจจัย บางท่านไม่สะดวกด้วยประการต่างๆ หากเราไปรอเวลา เมื่อไหร่เราจะได้ทำทาน เมื่อไหร่เราจะได้อานิสงส์ บางทีการทำทาน ด้วยของ ได้บุญน้อย เป็นเพราะอะไร
ทำเพราะจำใจทำบ้าง ทำเพราะแก้บนบ้าง โกงเขามาทำบุญบ้าง การให้ทานในสัตว์เดรัจฉานได้ผลหนึ่งร้อย เท่า ให้ผีก็ได้ผลกลับมาเช่นกัน อย่าลืมว่าในโลกทิพย์ เราเอาของไปให้เขา เขาก็รับไม่ได้ ไม่ได้ประโยชน์อะไร
สำคัญคือ การนำไปทำบุญ แล้วอุทิศผลของบุญ ให้พวกในโลกทิพย์ คน เราทุกๆคนนั้น ล้วนเคยทำบุญมาแล้วทั้งนั้น ให้ทาน รักษาศีล ภาวนา ในอดีตชาติที่ผ่านมา ถึงแม้เรา ไม่มีเงินซื้อของทำบุญในชาติปัจจุบัน แต่อย่าลืมว่า
การอาราธนา พระพุทธคุณเพื่อดึงเอาผลบุญที่เราเคยทำในอดีตมาใช้ในกาลปัจจุบันย่อมทำได้ ดัง นั้น เราดึงมา จึงเหมือนเรามีสมบัติมากมาย ข้าวปลา อาหาร ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย ที่ดิน ยานพาหนะ สามารถเบิกมา ซึ่งสามารถยกให้ใครก็ได้ แล้ว เมื่อให้ไปแล้ว บุญเราไม่หมด ยิ่งกลับมาร้อยเท่าพันเท่า ยิ่งให้ยิ่งขยายออก
เราอุทิศ ผลเหล่านี้ให้ผู้ตกทุกข์ได้ยากได้ ผู้ตกทุกข์ในโลกทิพย์ ได้แก่ใครบ้าง เปรต ผี สัมภเวสี อสุรกาย และผีต่างๆ ซึ่งเขาเคยสร้างบาปไว้ จึงมาตกทุกข์ กว่าจะพ้นภพภูมิก็ยาก หากเราช่วยเขา แทนที่เขาจะเป็นผีไปเป็น ร้อยปี
เราอุทิศให้ 1 ครั้ง เขาอาจจะหลุดพ้นไปเป็นเทวดาเลยก็ได้ พอเป็นเทวดาเขาก็จะกลับมาช่วยเหลือเรา ตามดูแลรักษาเรา หากเราอุทิศ อาหารให้เขา ผีเขาก็ได้รับ ผลกลับมาอานิสงส์เราจะได้อาหาร และร่างกาย ที่ดีกลับมา
หากเราให้อะไรเขา เราก็ได้กลับ ที่อยู่อาศัย ที่ดิน เสื้อผ้าอาภรณ์ ยานพาหนะ หากเราทำบ่อย กุศลจากการช่วยเหลือผีตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งคือผู้ที่ลำบากมากๆ ให้เขาพ้นทุกข์ อานิสงส์ก็เกิดกับเรามาก พอเขาเปลี่ยนภพภูมิเป็นเทวดาไป เขาก็ตามดูแลสงเคราะห์ช่วยเหลือเรา
ดังนั้น หากเราไม่มีเงินแม้สัก 1 บาท ก็ทำบุญด้วยการ ยกบ้านให้คนอื่นได้ ก็คืออุทิศบุญนี่แหละให้เขา ผีเขาได้รับเขาก็มีบุญ มีบ้านอยู่ มีอาหารกิน พ้นภพภูมิผี การจะให้ได้ผลมาก คืออุทิศให้เขาเป็นขอบเขต เช่น อธิษฐานว่า กายทิพย์ทุกกายที่อยู่รอบบริเวณ 1 ตารางกิโลเมตร รอบๆ ที่ข้าพเจ้านั่งแผ่บุญนี้ การแผ่ล้อมให้ทั้งจักรวาล เขาได้รับยาก ไม่มีอานิสงส์แรงเท่า เราแผ่เจาะจง ตัวอย่าง
คำอธิษฐานแผ่บุญเพื่อ สงเคราะห์ผี
สาธุด้วยเดชะแห่งพระรัตนตรัย ขอให้บุญข้าพเจ้าที่ได้ทำแล้วด้วย ทาน ศีล ภาวนา และบุญกริยาวัตถุสิบประการ ในอดีตชาติที่ผ่านมาทั้งหมดจนถึงกาลปัจจุบันนี้
โปรดแปรสภาพบุญทั้งหลายเหล่านั้นให้เป็น น้ำดื่ม โภชนาหารทิพย์ ยารักษาโรค ปราสาทราชวัง ที่อยู่อาศัยทิพย์ ที่ดิน ที่สวนอุทยาน เสื้อผ้าอาภรณ์พรรณ เครื่องประดับกาย เครื่องยานพาหนะ ราชยานเวหนทิพย์ อีกทั้งเครื่องบันเทิงสำราญใจทั้งปวง
เพื่ออุทิศให้แก่ ผี เทวดา และกายทิพย์ทุกกายที่อยู่รอบบริเวณ 1 ตารางกิโลเมตร รอบๆ ที่ข้าพเจ้านั่งแผ่บุญนี้ทั้งหมดทุกกาย
ได้อานิสงส์สอง ทาง 1.ผลบุญที่เราแผ่ให้ผี แผ่อะไรให้ เราจะได้สิ่งนั้นกลับมา ในไม่นานเพราะได้ช่วยคนตกทุกข์มากๆ 2.ผีที่มีสภาพดีขึ้นหรือเปลี่ยนภพ ภูมิ เขาจะตามดูแลรักษาช่วยเหลืองานต่างๆเรา มีบริวารมากขึ้น หมาย เหตุ- สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกๆวัน รักษาศีลทุกๆวัน จากนั้นเวลาแผ่บุญ ก็แปรสภาพ แล้วอุทิศให้ เราก็จะได้บุญไม่ขาดเลย ได้สงเคราะห์ผู้ตกทุกข์ด้วย -------------------------------------------------------------------------- และอีกส่วนหนึ่งเป็นการแชร์ประสบการณ์ของคุณจูน นะครับ วันนี้จูนขอแชร์ประสบการณ์นะครับ ก่อนออกจากบ้านไปไหนก็ตามก็จะสวดมนต์เสร็จ
ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วตั้งจิตอธิตฐาน ว่า วันนี้แม้นข้าพเจ้าจะผ่าน ณ แห่งหนตำบลใด ขออำนาจคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระอริยะสงฆ์เจ้า ข้าพเจ้าขอเบิกและโอนบุญให้แก่ผู้ที่ข้าพเจ้าเดินผ่านหรือท่านที่เดินผ่าน ข้าพเจ้าก็ดี ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดีหรืออมนุษย์ก็ดี ผลบุญใดที่สำเร็จแก่ข้าพเจ้าแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ณ วันนี้เวลานี้ ข้าพเจ้าก็ขอโอนบุญนี้ให้กลายเป็นอิทฤทธิ์และบุญฤทธิ์ หรือตามความประสงค์ของท่านทั้งหลายทุกประการโดยอัตโนมัติเทอญ
สำหรับ ท่านที่มีญาณทัศนะมองดูเลยครับ ประทานโทษครับ เขามารอรับเรา ตาม ๒ ข้างทาง เต็มไปหมด แถมพนมมือรอจะไหว้เราเป็นขบวนๆเยอะแยะ บางครั้งเราก็อดหัวเราะไม่ได้ เราก็หัวเราะ คนข้างๆหาว่าเราบ้า

การทำบุญให้สัมภเวสี

เรื่องนี้ขอนำคำสอนของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง มากล่าวดังนี้..
การทำบุญสงเคราะห์ญาติหรือผู้ที่ไม่ใช่ญาติสำหรับผู้ที่ตายไปเป็น สัมภเวสีต้องทำอย่างไรจึงจะบรรลุผลอย่างแท้จริง
“..ต้องรู้นะว่าการตายไปเป็น สัมภเวสี คือตายอย่างไร คือบุคคลที่ตายด้วยอำนาจอุปฆาตกรรม คือยังไม่สิ้นอายุขัย เช่น ฟ้าผ่าตาย สุนัขกัดตาย งูกัดตาย คลอดบุตรตาย ถูกฆ่าตาย รถชนตาย สรุปว่าตายปัจจุบันทันด่วนนั่นเอง
คนที่ตายตามอายุขัย ตายปุ๊บจะต้องไปเกิดตามกำลังบุญและกำลังบาป ถ้าเวลากำลังจะสิ้นใจนั้น คนบาป ต้องไปตามบาปทันที ( นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน) ถ้าคนบุญ ไปตามบุญทันที(มนุษย์ เทวดา พรหม นิพพาน) ทีนี้คนที่ตายก่อนอายุขัย ยังไม่มีสิทธิ์ไปตามบุญและบาป จะไปอบายภูมิก็ไม่ได้ ไปสวรรค์ก็ไม่ได้
ตอนนี้แหละเขาเรียกว่า สัมภเวสี
บุคคลที่ตายไปเป็นสัมภเวสี ถ้าหากว่า ญาติพี่น้อง สามี ภรรยา ลูกหลาน มีความฉลาด เมื่อทำบุญจะถวาย สังฆทาน หรืออะไรก็ตาม ต้องระบุชื่อเจาะจงให้แต่ผู้เดียว อย่าเผื่อคนอื่น อย่างนี้จะได้รับทันที เป็นผี (โอปปาติกะ )ที่มีความสุข แล้วก็คนนั้นเมื่อถึงวาระอายุขัย จะไม่ไปนรกแล้ว แต่จะไปสวรรค์ก่อน ตามกำลังบุญที่อุทิศให้ โดยผู้นั้นได้อนุโมทนาบุญนั้นด้วย..”
อีกตอนหนึ่งหลวงพ่อสอนเอาไว้ว่า…
“…บรรดาพุทธบริษัทโปรดทราบไว้ว่า กรรมที่เป็นอุปฆาตกรรมที่มาตัดรอนทำให้คนตายก่อนอายุขัย ตายแล้วไปเกิดเป็นสัมภเวสี บรรดาสัมภเวสีที่เดินเกลื่อนไปเกลื่อนมาในโลกมนุษย์ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคนธรรมดา เวลาที่ตายแต่งตัวแบบไหน นุ่งผ้าประเภทไหนก็แต่งตัวแบบนั้น มีความกังวลอยู่อย่างหนึ่งคือ มีความทุกข์ใจไม่รู้จะเกิดที่ไหนได้แน่นอน บรรดาสัมภเวสีพวกนี้มีความลำบาก ถ้าญาติของเราตายด้วยอำนาจของสัมภเวสี คือยังไม่สิ้นอายุขัย เช่น ฟ้าผ่าตาย คลอดบุตรตาย ถูกฆ่าตาย ถูกรถชนตาย เป็นต้น แต่ก็ไม่แน่นักบรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มี แต่ก็เผื่อเหนียวไว้ก่อน สมมุติว่าเขาเป็นสัมภเวสี พอตายไปแล้วก็ไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัดๆ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป อย่าทุบแม้แต่ไข่สัก ๑ ฟอง เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร พระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบๆ อย่ามีเหล้ายาปลาปิ้ง เมื่อทำบุญเสร็จก็อุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตาย ไม่ให้ใครทั้งหมด ทำอย่างนี้ท่านพวกนี้จะมีความสุข ได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบ เมื่อเข้าถึงอายุขัยเมื่อใด พวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน…”
ที่มา : หนังสือ ตายไม่สูญ…แล้วไปไหน ของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง
-------------------------------------------------------------------------------------
SE-ED ขอแนะนำหนังสือ 

บุญ ทำแล้วรวย

บุญ คือกุศล ผลเเห่งทานบารมี ย่อมส่งผลให้ประสบความสำเร็จ ทั้งชาตินี้เเละชาติหน้าตลอดไป




เนื้อหาโดยสังเขป
    "มนุษย์สมบัติ" คือการเกิดมาเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ แต่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้น 
ก็สามารถสร้างได้ในชาตินี้และเห็นผลในชาตินี้ ด้วยการประกอบ "บุญ" คือ "ทาน ศีล ภาวนา" 
ผลเเห่งทานบารมี ย่อมส่งผลให้ประสบความสำเร็จ ทั้งชาตินี้เเละชาติหน้าตลอดไป 
หากคุณปรารถนาที่จะเป็น "มนุษย์สมบัติ" ที่เพียบพร้อมทั้ง 8 ประการ หนังสือเล่มนี้มีคำตอบ!
สารบัญ
- บุญนำพาให้เป็น "มนุษย์สมบัติ"
- จำเเนกเเจก "ทาน"
- รวยด้วย "สังฆทาน"
- รวยด้วย "ธรรมทาน"
- รวยได้เพราะ "ปลดเปลื้องทุกข์"
- "รวย" เพราะ กาลทาน เเละร่วมงานศพ
- ทานอุปบารมี - ทานปรมัตถ์
- มหาทาน
- ให้ทานอย่างไร? มีอานิสงส์มาก
- ศีล - ภาวนา
- ข้อสงสัยในการ "ทำบุญ"
- อานุภาพของ "บุญ"

บริจาคเลือดทำบุญวันพระ 20 มิย 61 @กาชาดยุพราช


วันนี้ได้ไปบริจาคเลือดครั้งที่ 60 ที่กาชาดยุพราช ดั่งรูปถ่าย เพื่อส่งบุญมายัง บิดามารดา ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย และ อยากให้ทราบถึงอานิสงส์ของการบริจาคเพื่อให้พวกเรามาร่วมรับบุญกันอย่างไรพร้อมเพรียงเปรียบเสมือนท่านได้ทำด้วยตัวเอง และ ขอเชิญชวนผู้ที่ร่างกายแข็งแรงมาร่วมบริจาคโลหิตเป็นทาน เพราะ มีผู้ที่รอรับบริจาคเนื่องจากการผ่าตัดต้องการเลือดมาก และ ต้องเป็นกรุ๊ปที่สอดคล้องด้วย โดยเฉพาะ เกล็ดเลือด ถ้าคนป่วยมีเกล็ดเลือดต่ำ จะไม่สามารถทำการผ่าตัดได้เลยเพราะเลือดจะไหลไม่หยุดยากต่อการทำการผ่าตัดครับ




ผู้ถาม : “ทีนี้การ บริจาคโลหิตเป็นทาน นั้น อยากจะเรียนถามว่าเป็นทานขั้นไหนครับ…?”

หลวงพ่อ :  “เขาเรียกว่า ทานภายในนะ จะถือว่าเป็นปรมัตถทานก็ยังไม่ได้ เขาเรียกทานภายใน คือให้ของภายในกายนี่เป็น “ทานภายใน” ให้ของนอกกายเขาเรียก “ทานภายนอก” นะ ยังจะถือว่าเป็นปรมัตถทานไม่ได้นะ ถ้าเป็นปรมัตถทานต้องอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านทำ”
ผู้ถาม : “เป็นยังไงครับหลวงพ่อ…?”
หลวงพ่อ : “เชือดเนื้อเอาไปเลี้ยงเขาเลย”
ผู้ถาม :  “ถึงขนาดนั้นเชียวหรือครับ…?”
หลวงพ่อ :  “ใช่ นั่นเป็น “ปรมัตถทาน” เราถือว่าเป็นปกติทานก็แล้วกัน แต่เป็นทานภายในเพราะอานิสงส์สูงมาก อาจจะสูงกว่าทานภายนอกสักหน่อยหนึ่งนะ”
ผู้ถาม :  “แล้ว การบริจาคโลหิต กับ การอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาล เป็นทานอันไหนมีอานิสงส์มากกว่ากันครับ…?”

หลวงพ่อ :  อุทิศเลือดให้ขณะยังไม่ตายมีอานิสงส์สูงกว่าเมื่อตายแล้ว ตายแล้วเหมือนของเขาทิ้งแล้ว ร่างกายใช้อะไรไม่ได้ มีประโยชน์เพียงแค่วัตถุทาน จะให้มีอานิสงส์สูงเท่ากับให้เลือดตอนมีชีวิตอยู่นั้นไม่ได้แน่ ใช่ไหม…ดูอย่างพระพุทธเจ้าเมื่อสมัยเป็นพระเวสสันดร ตอนนั้นที่คนเขามาขอช้างหรือของต่าง ๆ พระองค์ก็คิดว่าทำไมไม่ขอดวงตา ถ้าขอท่านก็จะให้ ไม่ว่าจะเป็นแขนซ้ายหรือแขนขวาก็จะให้ นี่ท่านตั้งใจให้ตอนมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตอนตายแล้ว ฉะนั้นถ้าให้ได้ก็เป็นปรมัตถบารมี
ผู้ถาม :  “ทีนี้ถ้าจะบริจาคร่างกายให้นักศึกษาแพทย์เขาศึกษาต่อเมื่อเราตายแล้ว แต่อธิฐานไว้ว่า“ตายเมื่อไรขอพ้นจากวัฏฏสงสาร” อย่างนี้จะมีโอกาสไม่ให้มาเกิดอีกใช่หรือเปล่าครับ…?”หลวงพ่อ : “ถ้าเวลาจะตายนะ จิตตัดกิเลสแน่นอน ไม่อยากมาเกิดอีก หรือเมื่อนั้นเมื่อเวลาจะตาย จิตตัดความรักในระหว่างเพศ ตัดความโกรธ ก็ไม่มาเกิดอีก มันไม่แน่นะ เดาส่งไม่ได้ มันเฉพาะจิตใช่ไหม…จะเดาไม่ได้ แต่บังเอิญก่อนที่จะตาย เวลานี้ทรงอารมณ์ของพระโสดาบันได้นะ และก็ตัดสินใจไว้เสมอทุกเช้าว่า “ร่างกายนี้ตายเมื่อไร ขอไปนิพพานเมื่อนั้น” อันนี้จิตทรงตัวแน่นอน อย่างนี้ไปได้ทันที”
จาก หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๗๖-๗๗
โดย หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
ขอบพระคุณแหล่งที่มา บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน และ พลังจิต

การอุทิศบุญที่ถูกต้องและได้ผลโดยหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง (พระราชพรหมยาน)... อ่านต่อ!!!

------------------------------------------------------------------------

SE-ED ขอแนะนำหนังสือ 

บุญ ทำแล้วรวย

บุญ คือกุศล ผลเเห่งทานบารมี ย่อมส่งผลให้ประสบความสำเร็จ ทั้งชาตินี้เเละชาติหน้าตลอดไป



เนื้อหาโดยสังเขป
    "มนุษย์สมบัติ" คือการเกิดมาเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ แต่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้น 
ก็สามารถสร้างได้ในชาตินี้และเห็นผลในชาตินี้ ด้วยการประกอบ "บุญ" คือ "ทาน ศีล ภาวนา" 
ผลเเห่งทานบารมี ย่อมส่งผลให้ประสบความสำเร็จ ทั้งชาตินี้เเละชาติหน้าตลอดไป 
หากคุณปรารถนาที่จะเป็น "มนุษย์สมบัติ" ที่เพียบพร้อมทั้ง 8 ประการ หนังสือเล่มนี้มีคำตอบ!
สารบัญ
- บุญนำพาให้เป็น "มนุษย์สมบัติ"
- จำเเนกเเจก "ทาน"
- รวยด้วย "สังฆทาน"
- รวยด้วย "ธรรมทาน"
- รวยได้เพราะ "ปลดเปลื้องทุกข์"
- "รวย" เพราะ กาลทาน เเละร่วมงานศพ
- ทานอุปบารมี - ทานปรมัตถ์
- มหาทาน
- ให้ทานอย่างไร? มีอานิสงส์มาก
- ศีล - ภาวนา
- ข้อสงสัยในการ "ทำบุญ"
- อานุภาพของ "บุญ"