Saturday, June 16, 2018

ชีวิตคือการลงทุน แล้วอะไรล่ะคือการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตนี้ของเรา!!!

ชีวิต คือ การลงทุน
หากพูดถึงคำว่า "การลงทุน" ในมุมมองหนึ่งจะหมายถึง
"การกระทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับมาอย่างน่าพอใจ ไม่ว่าผลตอบแทนนั้นจะมาในรูปแบบไหนก็ตาม"

คนส่วนใหญ่มักจะมองที่ผลตอบแทนในรูปแบบของ "เงิน" เป็นหลัก
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผลตอบแทนหลักที่ดีจริงๆ ควรเป็น "ความสุข" ต่างหาก

การไปเที่ยวพักผ่อน คือการลงทุน เพราะคุณต้องไป ถึงจะได้ความสุข ได้ประสบการณ์ ได้ความสนุกกลับมาจากทริปนั้น

การอ่านหนังสือ การสะสมของ การทำงาน การออกกำลังกาย การไปเรียน การฟังอบรม .......ทุกๆอย่างคือการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนอะไรสักอย่างกลับคืนมา

ทุกๆการกระทำ จะได้รับผลตอบแทนกลับมาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร่างกายแข็งแรง รูปร่างดี ฉลาดขึ้น พูดได้เพิ่มอีกหนึ่งภาษา มีรายได้เสริม เป็นที่รู้จักมากขึ้น .........

สุดท้ายแล้วทุกๆผลตอบแทนนั้นล้วนแล้วแต่เพื่อตอบโจทย์ของคุณคือ เพื่อ "ความสุข"

ประเด็นหลักก็คือคิดจะทำอะไรสักอย่าง ให้ตั้ง "ความสุข" เป็นหลัก แล้วค่อยมองย้อนกลับมาว่าวิธีการคืออะไร เพราะนั่นจะทำให้คุณรู้ตัวอยู่ตลอดว่า
ขนาดไหนที่เรียกว่า หย่อนเกินไป หรือ ตึงเกินไป

สุดท้ายแล้วพอคุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณทำ คุณรักในสิ่งที่ทำ คุณก็จะสามารถทำสิ่งนั้นได้ดี และจะดีขึ้นไปเรื่อยๆอีก เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว
ผลตอบแทนอื่นๆ จะทยอยตามมาเองโดยอัตโนมัติ
ตอนนี้ผมมีความสุขมากกว่าเดิม  เพราะงานในตอนนี้ทำให้ผมมองเห็นความก้าวหน้าและพัฒนาการที่ดีได้  มันคือ การพักผ่อนในแบบของผมนี่เอง
จะเห็นว่าผมทำงานหลายอย่างมาก แต่ทุกอย่างที่ผมเลือกทำ
เป็นงานที่ผมรักและมีความสุขกับมัน ผมเลือก "ความสุข" มาก่อน "เงิน"
แต่ที่ยกตัวอย่างให้เห็นคือ นอกจาก"เงิน"แล้ว ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามันยังมีรูปแบบอื่นอีกมากมาย เพียงแต่คุณจะมองเห็นมันรึเปล่า
และตอนนี้ผมก็มีความสุขมากกว่าเดิม เพราะ เดิมทีจาก "เงิน" ที่ผมให้ความสนใจเป็นรอง ตอนนี้มันกำลังกลับมาหาผมเองโดยอัตโนมัติจากสิ่งที่ผมเลือกทำทั้งหมด
ก็เพราะเงินมันจะวิ่งเข้าหาคนที่มีปัญญา และเงินมันจะคงอยู่และงอกเงยต่อไปได้เมื่ออยู่กับคนที่มีปัญญาเช่นกัน
ดังนั้นจงเลือกทำในสิ่งที่จะพัฒนาปัญญาและความสามารถของตัวเองได้ เดี๋ยวเงินมันก็ตามมาเอง

ลองคิดดีๆนะครับ ย้ำถ้าชีวิตคือการลงทุน ผลกำไรจากการลงทุนคือ...การมีความสุขมากกว่าความทุกข์ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่...
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนครั้งนี้...
คือคนที่มี...ต้นทุนต่ำ...ในการเข้าถึงความสุข..

ความสุขต้นทุนต่ำ..คือสิ่งที่เราออกแบบได้ด้วยตัวเราเอง..
    คนคนนึงใช้กระเป๋าหลุยส์...แล้วรู้สึกมีความสุข
    คนอีกคนนึงใช้กระเป๋าหญ้าสาน otop แล้วรู้สึกมีความสุข
คนสองคนนี้...ใครมีความสุขมากกว่ากัน
ความสุข วัดขนาดไม่ได้...แต่วัดความถี่ได้
คนทั้งสองมีความสุข คนละครั้ง...เท่ากัน..ในเหตุการณ์ครั้งนี้...
แต่คนทั้งสอง "อาจจะ" มีต้นทุนในการเข้าถึงความสุขครั้งนี้ไม่เท่ากัน..
หากใน 1 วันเราเลือกพิจารณาความสุขเล็กๆ...ที่เข้าถึงง่ายๆ... เราจะมีความสุขได้หลายครั้งในแต่ละวัน เก็บสะสม..กำไรชีวิต..ทุกๆวัน...



ยกตัวอย่าง ประเทศเล็ก ๆ อย่างภูฎาน ทางเหนือติดกับ จีน และทางใต้ติดกับอินเดีย เท่ากับวางอยู่ตรงกลางระหว่างสองยักษ์ใหญ่ของโลก แต่ผู้นำภูฏานมีวิสัยทัศน์และความกล้าหาญทางการเมือง พอที่จะประเมินความสำเร็จหรือล้มเหลวด้วย “ดัชนีความสุข

ปกครองแบบประชาธิปไตยคู่ขนานกับ “เศรษฐกิจพอเพียง” ในรูปแบบของ Gross National Happiness (GNH) แทนที่จะเป็น Gross National Product (GNP) หรือ GDP อันหมายถึง “ผลผลิตมวลรวม แบบประเทศอื่นๆ



หากชีวิต คือ การลงทุน ...ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนแนวไหน... เราคงมีกำไรจากการลงทุนครั้งนี้ได้ไม่ยากกันทุกคน....
จงนำหลักธรรมะบริหารจัดการลงทุนอย่างไร ?

ถ้าคุณเป็นนักลงทุน สิ่งแรกที่คุณควรเริ่ม คือ ลงทุนในตนเอง หรือในทางธรรมะ ให้คุณรู้จักมองตนเองให้มากขึ้น แล้วมองคนอื่นให้น้อยลง
แม้แต่ วอร์เร็น บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลก กล่าวไว้ว่า กฎทองข้อแรก คือ "จงลงทุนในตนเอง" ให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น

แล้วการลงทุนในตนเองเป็นอย่างไร
เมื่อคุณยังไม่มีความรู้ คุณควรไปศึกษาหาความรู้ ถือเป็นการลงทุนทางความรู้
เมื่อคุณสุขภาพยังไม่แข็งแรง คุณควรไปลงทุนในด้านสุขภาพ
หรือในทางธรรม คุณควรลงทุนสร้างเสริมสติปัญญา ลงทุนทางคุณธรรม
เมื่อคุณยังไม่มีสิ่งเหล่านี้ คุณควรพัฒนาให้มีความรู้ มีสุขภาพดี มีคุณธรรม เป็นต้น

ดังตัวอย่างนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตอย่างหนึ่ง การลงทุนไม่ได้หมายความว่า ลงทุนทางธุรกิจเท่านั้น การลงทุนในสิ่งเหล่านี้ จะยั่งยืนกว่าการลงทุนทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว

สุดท้ายนี้ หลักธรรมะ 1 ข้อที่นำไปใช้ได้ โดยท่าน ว. วชิรเมธี ได้นำพระพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จปรินิพพาน
ไว้ว่า "จงอย่าประมาท" เนื่องจากคนที่ประมาทไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายแล้ว !

ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไร ทำธุรกิจ ลงทุนหุ้น หรือดำเนินชีวิต ถ้าหากเราไม่ประมาทก็จะไม่พบกับความล้มเหลว คราวนี้ขึ้นกับว่าเราจะดำรงชีวิตแบบไหน

แล้วนิยามการลงทุนของคุณคืออะไร?
อย่างไรก็ดี การลงทุนย่อมคู่กับความเสี่ยง (ความเสี่ยง คือ โอกาสที่ผลที่เกิดจริงจะไม่เป็นไปตามที่หวังไว้แต่แรก) การลงทุนทุกอย่างที่เราลงทุนมา
จึงมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลไม่เป็นอย่างใจท่าน บุตรของท่านอาจทอดทิ้งไม่เลี้ยงดู การศึกษาของท่านอาจกลายเป็นสาขาอาชีพที่มีรายได้น้อยไม่เป็นที่นิยม
การทำงานหนักของท่านอาจโดนเด็กเส้นเติบโตข้ามหัว หรือแม้แต่การลงทุนทางการเงินของท่านอาจขาดทุน ด้วยเหตุนี้ ส่วนตัวผมจึงเห็นว่า
ไม่ควรลงทุนไปในเรื่องใดของชีวิตจนมากเกินไป คือต้องกระจายการลงทุนให้สมดุล ทั้งเรื่องความก้าวหน้าทางการงาน ความสุขกับครอบครัว
และความมั่งคั่งทางการเงิน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากจะฝากให้เป็นข้อคิดก็คือ
ความเสี่ยงที่สุดของชีวิตคนคนหนึ่ง ไม่ใช่การลงทุนที่ผิดพลาด แต่คือการไม่กล้าลงทุนในสิ่งใดเลย
และไม่ว่าทางเลือกต่างๆ จะมีความเสี่ยงอย่างไร หากท่านมุ่งหวังอยากได้สิ่งที่ดีกว่าในอนาคตซึ่งมีคุณค่ามากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในวันนี้
กุญแจไปสู่เป้าหมายเหล่านั้นก็ คือการลงทุน

ชีวิตคือการลงทุนครับ…จงพอใจในสิ่งที่ตนมีตามคลิปนิทานธรรมะจาก ท่าน ว


ชีวิตคือการลงทุน ตัวชีวิต คือต้นทุน สิ่งที่ได้มาหลังชีวิตคือกำไรทั้งหมด การเกิดมาในโลกนี้่เหมือนการมาเที่ยวหรือไปเที่ยวต่างประเทศ
เราควรจะชื่นชมทุกอย่างที่เห็น แต่เมื่อเดินทางกลับมาแล้ว เราจะต้องวางทุกอย่างไว้อย่างเดิม เพราะนั่นเป็นสมบัติของแผ่นดิน
เก็บเอาได้เพียงความสุข ความเบิกบานใจ ติดตัวกลับบ้านก็พอ
ชีวิตในโลกนี้ มีทั้งกำไร ที่เป็นสินทรัพย์และกำไรที่เป็นอริยทรัพย์
สินทรัพย์เราทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของโลกต่อไป ให้คนอื่นชื่นชมด้วย
แต่ถ้าหากเรามีโอกาสกลับมาเที่ยว (เกิดใหม่อีก) อีก เราก็มีโอกาสได้ชื่นชมอีก แต่ด้วย อริยทรัพย์คือบุญ ความสุข ความเบิกบานใจ อิ่มใจ พอใจ เป็นสมบัติแท้ของเรา ซึ่งสามารถตามเราไปได้ทุกหนแห่ง ดั่งคำกล่าวที่ว่า 4 คนหาม 3 คนแห่ 1 คนนั่งแคร่ 2 คนพาไป คืออะไรกันเอ่ย!!!

สี่คนหาม  ได้แก่ธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ที่ประกอบขึ้นมาเป็นร่างกาย
สามคนแห่ ได้แก่  อนิจจัง คือความไม่เที่ยงแท้ ความตั้งอยู่มิได้  ทุกขังคือสภาพที่ทนอยู่ได้ยาก  อนัตตา ความเป็ยของไม่ใช่ตัวตน สภาพที่บังคับมันไม่ได้
หนึ่งคนนั่งแคร่ คือ จิตของเรานี้
สองคนพาไป คือกุศล หรืออกุศล ได้แก่บุญบาปที่จะนำเราไปเกิดในภพภูมิต่อไป




“โยคาวจร พิจารณาเห็นภัยในสังสารแลกลัว จะใคร่พ้นจากสังสาร ดุจดังกบอันจะใคร่พ้นจากปากงูนั้นแล”

การลงทุนให้ได้กำไร คือหัดทำความพอใจในสิ่งที่เรามี หรือ อีกนัยยะคือ ทำในสิ่งที่รัก หรือ รักในสิ่งทีมี...

มาลองฟังนิทานสอนใจ "จะเลือกใครดีหนอ"
ผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากบ้านของเธอ และได้เห็นชายชราที่มีเคราสีขาว 3
คนนั่งอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ของเธอ เธอไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เธอพูดกับเขาว่า
"ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักพวกคุณ แต่ท่าทางคุณต้องหิวแน่เลย โปรดเข้ามาในบ้านและทานอะไรซักหน่อยเถอะ"
"สามีของเธออยู่ในบ้านไหม" เขาถาม......................
"ไม่" เธอตอบ "เขาออกไปข้างนอก" .................
"ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็เขาไปข้างในไม่ได้ดอก" เขาตอบ ................
ในตอนเย็น เมื่อสามีเธอกับมาบ้าน เธอเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น "ไปบอกพวกเขาซิ ฉันกลับมาบ้านแล้ว และเชิญเข้ามาในบ้านเถิด
" เธอก็ออกไปและเชิญพวกชายชรานั้นให้เข้ามาในบ้าน
"เราเข้าไปในบ้านพร้อมกันไม่ได้หรอก" เขาตอบ "ทำไมล่ะ" เธอถาม
ชายชราคนหนึ่งอธิบายว่า "เขาชื่อ ความมั่งคั่ง" เขาพูดและชี้ไปยังเพื่อนของเขา และชี้ไปยังอีกคนหนึ่งว่า "เขาคือ ความสำเร็จ และฉันคือ ความรัก" เขากล่าวต่อไปว่า 
"บัดนี้ จงเข้าไปข้างในและปรึกษากับสามีของเธอว่า คนไหนในพวกเราที่คุณต้องการจะให้เข้าไปในบ้านของคุณ" 
เธอกลับเขามาข้างในและบอกกับสามีของเธอ สามีของเธอรู้สึกดีใจมาก 
"วิเศษจริง ๆ" เขากล่าว "เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะเชิญ ความมั่งคั่ง เมื่อเขาอยู่กับเรา บ้านของเราจะเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง" .........................
ฝ่ายภรรยาไม่เห็นด้วย "ที่รัก ทำไมเราไม่เชิญ ความสำเร็จ ล่ะ"
ขณะนั้นลูกสะใภ้ได้ยินทั้งสองกำลังปรึกษาจากมุมหนึ่งของบ้าน เธอก็เข้ามาและแนะนำว่า "จะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเราเลือก ความรัก บ้านของเราจะเต็มไปด้วยความรักไง"

"เราฟังสิ่งที่ลูกสะใภ้แนะนำเถอะ"
สามีกล่าวกับภรรยา "ออกไปข้างนอกและเชิญความรักเขามาเป็นแขกของเราเถอะ"
ภรรยาออกไปและถามชายชราทั้ง 3 ว่า "ใครคือความรัก โปรดเข้ามาและเป็นแขกของเราเถอะ" ความรักลุกขึ้นและเดินไปยังบ้าน
ชายชราอีก 2 คนก็ลุกขึ้นและตามเขาไป ด้วยความประหลาดใจ ภรรยาถาม ความมั่งคั่ง และความสำเร็จว่า "ฉันเชิญเพียงความรัก" ทำไมคุณถึงเข้ามาด้วยล่ะ" ชายชราตอบพร้อมกันว่า "ถ้าคุณเชิญความมั่งคั่ง หรือ ความสำเร็จ คนใดคนหนึ่ง อีกสองคนก็จะอยู่ข้างนอก 

แต่เมื่อคุณเชิญความรัก ที่ใดที่เขาไป เราจะไปกับเขา "ที่ใดมีความรัก ที่นั่นก็จะมีความมั่งคั่งและความสำเร็จ"
แล้วคุณละคุณจะเลือกใคร.........ถ้าคุณไม่อ่านจนจบ..................... 
ความโชคร้ายของมนุษย์ คือการไม่รู้ว่าตนเองโชคดี ที่เราทุกๆคนสามารถเลือกชีวิตของเราเองได้

----------------------------------------------------------------------------------------

สงบ จากหลวงพ่อพุธ
ฟังธรรมะ ฟังจากหัวใจตัวเองนั่นดีที่สุด อย่าไปเที่ยวหาฟังจากคนอื่น

ราคาพิเศษ 80 บาท จากราคาเดิม 120 บาท
สั่งซื้อได้เลยที่นี้!!!

No comments: